นายกมล รอดคล้าย สมาชิกวุฒิสภา(สว.)อภิปรายต่อรายงานการพิจารณาศึกษาเรื่องการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรที่มีกาสิโน ของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ซึ่งพิจารณาเสร็จแล้ว ระบุว่ากาสิโนคือบ่อนการพนัน ไม่ว่าจะมีการพนันกี่เปอร์เซ็น กาสิโน คือบ่อนการพนันทั้งสิ้น และตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีประเทศใดที่เจริญได้ด้วยการพนัน พร้อมฝากถึงรัฐบาลว่าการหารายได้เข้าประเทศจากกาสิโนคือการคิดแบบง่ายเกินไป Entertainment Complex มีหลายรูปแบบ แต่หากมีบ่อนกาสิโนก็ย่อมหมายถึงการนำการพนันเข้าสู่สังคมไทย ซึ่งไม่อาจเป็นรากฐานในการขับเคลื่อนประเทศได้ พร้อมยกตัวอย่างประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้า เช่น นอร์เวย์ ฟินแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ที่พัฒนาเศรษฐกิจด้วยระบบรัฐสวัสดิการ การศึกษา อุตสาหกรรม เทคโนโลยี และนวัตกรรม ไม่ใช่กาสิโน ขณะที่ประเทศที่ใช้กาสิโน เช่น มาเก๊า หรือสิงคโปร์ ไม่ได้เป็นตัวอย่างของการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนหรือเหนือกว่าประเทศใหญ่ และสิงคโปร์สามารถบริหารจัดการได้เพราะกฎหมายเข้มแข็ง ซึ่งแตกต่างจากประเทศไทย แม้กาสิโนจะสร้างรายได้ กระตุ้นการท่องเที่ยว และสร้างงาน แต่ผลเสียคือปัญหาสังคม หนี้สิน อาชญากรรม คอร์รัปชัน ฟอกเงิน และความเหลื่อมล้ำ คนรวยยิ่งรวยขึ้น ขณะที่คนจนจะยิ่งจนลง จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาอย่างรอบคอบ และเสนอว่าหากจะผลักดัน Entertainment Complex ควรตัดกาสิโนออกไป ย้ำว่า ประเทศไทยมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่สามารถขับเคลื่อนด้วยแนวทางอื่น เช่น การพัฒนา Wellness Center การสร้างแรงงานที่มีคุณภาพ การยกระดับทักษะด้านเทคโนโลยี การส่งเสริมการศึกษา รวมถึงการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และการท่องเที่ยว พร้อมทิ้งท้ายว่า สมาชิกวุฒิสภามีหน้าที่สำคัญในการส่งมอบประเทศที่ดีและมีคุณภาพให้แก่คนรุ่นใหม่ จึงขอให้พิจารณาว่าจะส่งต่อประเทศอย่างไร ซึ่งตนเชื่อว่าทุกคนต้องการเห็นคนรุ่นใหม่อยู่ในประเทศที่ดีและมีคุณภาพ
ด้านนางประทุม วงศ์สวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายเห็นด้วยกับการจัดตั้ง Entertainment Complex ที่มีกาสิโน โดยมองว่าประเทศไทยกำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญ หากกลัวเกินไปจะเสียโอกาสให้ประเทศเพื่อนบ้าน การมีกาสิโนไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยมีการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในอดีต เช่นที่เกาะล้านเมื่อกว่า 20 ปีก่อน แต่ที่ผ่านมาประเทศไทยยังคงถอยหลังเพราะความกลัว ทั้งที่หลายประเทศในภูมิภาค เช่น เวียดนามและญี่ปุ่น ได้อนุมัติโครงการลักษณะนี้ไปแล้ว ส่วนข้อกังวลด้านเศรษฐกิจและการลงทุน สามารถแก้ไขได้ หากมีระบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน รวมถึงการดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามา ซึ่งจะสร้างรายได้มหาศาลเข้าสู่ประเทศ ขณะที่ปัญหาการพนัน การติดหนี้หรือการฟอกเงิน ล้วนเกิดขึ้นอยู่แล้วในสังคมไทย แม้ไม่มีกาสิโน แต่กลับอยู่นอกระบบและสร้างมูลค่ามหาศาลกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี โดยรัฐไม่สามารถควบคุมได้ หากมี Entertainment Complex ที่มีกาสิโน อย่างเป็นทางการ จะสามารถนำรายได้เข้าสู่ระบบ โดยสร้างกลไกควบคุมที่ชัดเจน ขณะที่เรื่องศีลธรรมเป็นเรื่องภายในจิตใจของประชาชน และ Entertainment Complex ไม่ได้มีเพียงกาสิโน แต่รวมถึงศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร สปา กีฬา และกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ ที่สามารถยกระดับ Soft Power ของประเทศได้ ขณะนี้ประเทศไทยยืนอยู่บนทางแยก หากปล่อยให้ความกลัวครอบงำ โอกาสทางเศรษฐกิจอาจตกไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่หากเลือกความกล้า จะทำให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเสนอให้รัฐบาลไม่ว่าจะชุดใดก็ตามต้องกำหนดนโยบายเรื่องกาสิโนอย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจผ่านการเลือกตั้ง ตนในฐานะประชาชนขอสนับสนุน และขอเปลี่ยนความกลัวให้เป็นพลัง เปลี่ยนปัญหาให้เป็นโอกาส เลือกเส้นทางใหม่ของประเทศเพื่ออนาคตที่ดีกว่า
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง