นายรังสิมันต์ โรม ประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงแนวทางดำเนินการของคณะกรรมาธิการฯ ในสัปดาห์หน้า ว่า จะติดตามต่อเนื่องในเรื่องของความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ที่ส่งผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทางคณะกรรมาธิการมีมติในการเรียกรักษาการนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เป็นหัวหน้าทีมไทยแลนด์ พลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประธาน กสทช. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้แทนจากมูลนิธิอิมมานูเอล มาพูดคุยกัน
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ ยังมีมติเรียกนายสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้มาชี้แจงเรื่องคลิปเสียงที่ได้เจรจากับสมเด็จ ฮุน เซ็น ประธานวุฒิสภากัมพูชาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในการประชุมสัปดาห์หน้า เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ สำหรับการแก้ไขปัญหาในเรื่องไทยและกัมพูชา โดยพิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องนี้ไม่มีใครสามารถตอบคำถามแทนได้ กระทรวงการต่างประเทศในรอบที่แล้วที่มาชี้แจง ก็พูดไปในทำนองที่ว่าการกระทำของนางสาวแพทองธารผิดกฎ้กณฑ์ที่กำหนดของการพูดคุย ที่ตามปกติแล้วกระทรวงการต่างประเทศต้องเป็นหน่วยงานที่ดูแล ซึ่งหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากนางสาวแพทองธาร ทั้งนี้ อาศัยอำนาจตามมาตรา 6 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2568 คณะกรรมาธิการมีอำนาจเรียกเอกสารจากบุคคลใด หรือเรียกบุคคลใด มาแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็น หรือแสดงความเห็น ในกิจการที่กระทำหรือในเรื่อง ที่พิจารณาเสาะหาข้อเท็จจริงหรือศึกษาอยู่นั้นได้ ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ด้านนางปทิดา ตันติรัตนานนท์ สส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์บริเวณพื้นที่ชายแดน ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย ว่า มีความคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความตื่นตระหนก ขอให้นักท่องเที่ยวย้ายออกไปทั้งหมดและในพื้นที่เองก็มีการสื่อสารว่าต้องอพยพแล้ว ซึ่งก็เป็นกังวลเรื่องการสื่อสารที่ส่งไปอย่างรวดเร็วและอาจสร้างความตื่นตระหนกได้ อีกประเด็น คือ เรื่องความปลอดภัย การสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่ ซึ่งจากที่นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่และให้ข้อสังเกตว่าหลุมหลบภัยจะปลอดภัยขนาดไหน ซึ่งตนรู้สึกดีใจที่นายกรัฐมนตรีมองเห็นความสำคัญ และจะมีโอกาสได้ใช้งบกลางอนุมัติ เพื่อสร้างหลุมหลบภัยให้กับโรงเรียนในพื้นที่ โดยขอเรียกร้องรัฐบาลให้ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนมากขึ้นกว่านี้
เมื่อถามว่าหากนายกรัฐมนตรีไม่มาพบคณะกรรมาธิการฯ จะเป็นอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวตอบว่า ตามมาตรา 13 โดยหลักการจะต้องชี้แจงเหตุผลในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่ได้เป็นขั้นตอนที่จะไปเอาผิดทางอาญา แต่เป็นขั้นตอนทางการเมืองว่าเหตุและผลอะไรที่ไม่มา ซึ่งกรณีที่ไม่ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการฯ นายกรัฐมนตรีก็ต้องชี้แจงกับสภาฯ และจะได้มีการซักถามกันต่อไป ประชาชนก็จะได้รับทราบเหตุผล ซึ่งตนไม่ได้หวังผลให้นายกรัฐมนตรีไปชี้แจงในที่ประชุมสภาฯ ตนทำตามกระบวนการ สัปดาห์ที่แล้วเชิญมาแล้วครั้งหนึ่ง และที่ผ่านมาพยายามติดตามเรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีสัญญาณอะไรกลับมา ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีสะดวกวันไหน ทางคณะกรรมาธิการฯ ก็ยินดี แต่ที้ก่อนหน้านี้ขอความร่วมมือไป แต่เมื่อไม่ให้ ก็ต้องใช้กฎหมายอำนาจเรียกดังกล่าว
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
