13 ก.ค. 68 - สว.เทวฤทธิ์ เสนอ 4 ทางรอดกองทุนประกันสังคม เพิ่มผลตอบแทน-เพิ่มสวัสดิการ-ลดงบประมาณ-ปิดช่องทุจริต พร้อมหนุนบอร์ดต้องมาจากการเลือกตั้ง

image

          นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า ตนขอเสนอข้อพิจารณา 4 เรื่อง ในการทำให้กองทุนประกันสังคมเดินหน้าต่อไปได้ ได้แก่ เพิ่มผลตอบแทนในการลงทุน โดย 10-20 ปี ที่ผ่านมา ผลตอบแทนของกองทุนประกันสังคมอยู่ที่ปีละ 3% ขณะที่กองทุนประกันสังคมประเทศอื่น ๆ อยู่ที่ราว 6-7% ซึ่งเป็นโจทย์ของกองทุนประกันสังคมไทยที่ต้องมองหาการลงทุนใหม่ ๆ แต่ต้องไม่ใช่การลงทุนที่เสี่ยงเกินไปตามกรอบแบบเสรีนิยมใหม่ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ผลคือกองทุนจะไม่มีเสถียรภาพ ที่สำคัญจะต้องลงทุนในธุรกิจที่เคารพสิทธิแรงงาน ต้องใช้นโยบายการลงทุนเพื่อสร้างสวัสดิการแรงงานด้วย ซึ่งหมายถึงต้องเลือกกลุ่มธุรกิจที่ให้หลักประกันว่าแรงงานจะมีสิทธิเสรีภาพในการใช้ชีวิตและการทำงานที่ดี รวมทั้งคำนึงถึงสิทธิการรวมตัวของแรงงาน
          ข้อเสนอที่ 2 เรื่องเพิ่มสวัสดิการ โดยขยายฐานสมาชิกกองทุนฯ ด้วยการเพิ่มสวัสดิการเพื่อดึงดูดให้แรงงานนอกระบบกว่า 21 ล้านคน เข้าเป็นสมาชิก เพื่อให้ผู้ประกันตนมีชีวิตที่ดีขึ้นและคนใหม่ ๆ เข้ามามากขึ้นและสะดวกขึ้น รวมถึงกองทุนฯ เองก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขยายสมาชิกด้วย ซึ่งส่งผลถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกองทุนฯ เช่นกัน อีกส่วนหนึ่งที่กองทุนฯ สามารถขยายฐานสมาชิกได้ คือ แรงงานข้ามชาติ ซึ่งถูกหลายภาคส่วนดูแคลนและมองเป็นภัยคุกคาม ซึ่งปัจจุบันแรงงานข้ามชาติ 3 สัญชาติ อยู่ในระบบประกันสังคมกว่า 1.43 ล้านคน อีกกว่าครึ่งยังไม่เข้าระบบ ซึ่งจำนวนดังกล่าวนี้ยังไม่รวมส่วนที่เป็นสิทธิบำนาญที่ไม่ได้รับ ซึ่งแรงงานทั้ง 3 สัญชาติ ที่อยู่ในระบบประกันสังคมกว่า 1 ล้านคนเหล่านี้ จะมาช่วยเติมเงินให้ระบบประกันสังคมและระบบเศรษฐกิจด้วยซ้ำ ส่วนสถานรักษาพยาบาลหลายแห่งที่มีภาพผู้ใช้บริการจำนวนมากนั้น โจทย์ไม่ใช่แรงงานข้ามชาติมาเบียดบัง แต่ไทยมีสถานพยาบาลไม่สอดคล้องกับประชากรที่ควรได้ตามสิทธิ กลับกลายเป็นว่าชนชั้นแรงงานต่างสัญชาติ มาแย่งชิงสวัสดิการที่รัฐจัดสรรให้อย่างไม่เพียงพอ
          นายเทวฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อเสนอต่อมา คือ การลดงบประมาณที่ไม่จำเป็น เช่น ที่มีการถกเถียงกันเรื่องปฏิทิน ซึ่งยังคงยืนยันเดินหน้าจัดทำด้วยงบประมาณ 50 ล้านบาท แม้มีการสำรวจความเห็นแล้วว่าคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการ ซึ่งตนเห็นว่ายุคปัจจุบันคนส่วนใหญ่ไม่ได้ดูปฏิทินแล้ว อีกทั้งยังมีผู้ประกันตนจำนวนมากที่ไม่เคยได้ปฏิทินเลย และงบประมาณ 50 ล้านบาท ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีกมาก เช่น การลงทุนเพิ่มหรือจัดสวัสดิการเพิ่ม และข้อเสนอสุดท้าย ปิดช่องการทุจริต เช่น การตรวจสอบการซื้อตึกที่แพงเกินจริงถึง 2 เท่าอย่างไม่สมเหตุสมผล ทั้งนี้ เชื่อว่า ข้อเสนอทั้งหมดจะเป็นทางรอดที่กองทุนประกันสังคม ควรดำเนินการในช่วงที่ยังไม่สามารถทำให้ "สวัสดิการ" ลงหลักปักฐานในประเทศไทย กองทุนประกันสังคม จึงเป็นเครื่องมือหนึ่งในการทำให้สวัสดิการอยู่ในสังคมไทย
          นอกจากนี้ นายเทวฤทธิ์ ยังชี้ให้เห็นปรากฏการณ์บอร์ดประกันสังคมที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อปลายปี 2566 ส่งผลให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น และกองทุนประกันสังคมต้องฟังเสียงประชาชนมากขึ้น ทำให้ปัญหาบางเรื่องที่เคยอยู่ในแดนสนธยาได้รับการเปิดเผย ดังนั้น ตนจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการชุดอื่น ๆ ในสำนักงานประกันสังคม มาจากการเลือกตั้งโดยผู้ประกันตนโดยตรงเช่นกัน

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ