นางสาวอัจฉรพรรณ หอมรส สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวเรียกร้องหน่วยงานภาครัฐเร่งออกมาตรการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา หลังเกิดกรณีข่าวพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่หลายรูป มีความสัมพันธ์กับสีกาหญิงรายหนึ่ง โดยระบุว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำผิดวินัยสงฆ์อย่างร้ายแรงถึงขั้นปาราชิก และได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชนอย่างกว้างขวาง สีกาหญิงคนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันออนไลน์และมีประวัติเสียพนันออนไลน์ มูลค่านับสิบล้านบาท พร้อมกันนี้ยังได้มีการออกหมายจับพระผู้ใหญ่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีความเชื่อมโยงกับการบริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา จำนวน 408 แห่งทั่วประเทศ ทั้งยังพบมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการบริหารจัดการเงินเดือนครูและบุคลากรของโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั่วประเทศที่ยังไม่ได้รับเงินเดือน และยังพบกรณีการทุจริตเงินงบประมาณค่าภัตตาหาร(ค่าอาหารกลางวันของสามเณร) ของโรงเรียนพระปริยัติธรรมในภาคใต้ จำนวนกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งยังไม่มีการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงินงบประมาณดังกล่าวแต่อย่างใด นอกจากนี้ ครูและพระสงฆ์ในโรงเรียนพระปริยัติธรรมยังไม่ได้รับค่าตอบแทนหรือสวัสติการที่ดีเพียงพอ เช่น ไม่ได้รับการปรับเงินค่าตอบแทนตามวิทยฐานะ โดยได้รับเป็นจำนวนเงินคงที่ คือ เดือนละ 15,000 บาท และไม่มีสวัสดิการที่ชัดเจน สิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวเชิงโครงสร้างการบริหารจัดการคณะสงฆ์ และการกำกับดูแลของภาครัฐ โดยเฉพาะเรื่องการเสพเมถุนที่พระวินัยกำหนดให้เป็นอาบัติปาราชิก แต่กฎหมายยังมิได้กำหนดให้เรื่องการเสพเมถุนเป็นความผิด จึงจำเป็นต้องมีการปฏิรูปกฎหมายและกลไกธรรมาภิบาลอย่างรอบด้าน
นางสาวอัจฉรพรรณ กล่าวต่อว่าขอเสนอให้ภาครัฐเร่งรัดดำเนินการ ปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ส่งเสริมพระพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่ได้ยกร่างไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564-2565 การแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 หรือการเสนอร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมพระพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. .... รวมทั้งเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสิทธิประโยชน์และค่าตอบแทนของครูและบุคลากรในโรงเรียนพระปริยัติธรรมให้มีความเท่าเทียมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นๆ ด้วย และเห็นควรเร่งตรวจสอบเกี่ยวกับกรณีการทุจริตเงินงบประมาณค่าอาหารกลางวันของสามเมรของโรงเรียนพระปริยัติธรรมในภาคใต้ให้ปรากฏข้อเท็จจริงโดยเร็ว
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
