การประชุมของคณะอนุกรรมาธิการ(อนุ กมธ.)การบริหารจัดการหนี้สินครัวเรือนเกษตรกรไทย ในคณะ กมธ.การเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ที่มีนายเตชสิทธิ์ ชูแก้ว ประธาน อนุ กมธ.เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาข้อมูลด้านการตลาดของสินค้าเกษตรเศรษฐกิจหลัก รวมถึงแนวโน้มความต้องการของตลาด และโอกาสในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเชิญผู้แทนจากสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เข้าร่วมชี้แจงและแลกเปลี่ยนข้อมูล
อนุ กมธ.ได้รับฟังข้อมูลจากผู้แทนสำนักงานกรมการค้าภายใน ที่ได้นำเสนอข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับนโยบายและแนวทางการดำเนินการตามหลัก ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ พร้อมแผนปฏิบัติฤดูกาลสินค้าสำคัญในปี 2567–2568 ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง อ้อยโรงงาน ปาล์มน้ำมัน ยางพารา กระเทียม ทุเรียน ลำไย หอมแดง และสินค้าอื่นๆ ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ขณะที่ผู้แทนกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความต้องการของตลาดต่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเน้นว่าการส่งออกสินค้าเกษตรแม้จะชะลอลงบางช่วง แต่หากมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน โดยเฉพาะในด้านการคัดเกรดสินค้า การจัดส่งที่ไม่สะดุด และความร่วมมือกับคู่ค้าระหว่างประเทศ จะยังสามารถขยายตลาดได้อย่างมีศักยภาพ นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมการค้าเชิงรุกผ่านกิจกรรมThailand Premium Fruit Business Matching เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้จับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้นำเข้าต่างประเทศโดยตรง และสนับสนุนให้มีการใช้ฐานข้อมูลร่วม เช่น การวิเคราะห์ BIG DATA การพยากรณ์ตลาดล่วงหน้า และการประสานงานแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่อให้เกษตรกรสามารถวางแผนการผลิตได้สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง
ทั้งนี้ อนุ กมธ.เห็นพ้องว่า ข้อมูลด้านการตลาดถือเป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดทิศทางนโยบายการเกษตรในอนาคต โดยเฉพาะการลดหนี้สินของเกษตรกรและการเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืน จึงเตรียมนำข้อมูลที่ได้จากการประชุมในครั้งนี้ ไปประกอบการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายต่อวุฒิสภา และผลักดันสู่การปฏิบัติในระดับนโยบาย เพื่อดันสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดต่างประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
อนุ กมธ.บริหารจัดการหนี้สินฯ วุฒิสภา ข้อมูล/ภาพ
