26 มิ.ย. 68 - กมธ.อ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ วุฒิสภา ชี้ร่าง กม.สถานบันเทิงครบวงจร อาจขัด รธน. พร้อมเผยพบข้อพิรุธหลายประเด็น เอกชนรู้ข้อมูลลึกกว่ารัฐมนตรี 

image

          นายแพทย์ วีระพันธ์ สุวรรณนามัย ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (อ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) วุฒิสภา แถลงความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมาธิการฯ ว่า จากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือร่างกฎหมายอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ พบข้อสังเกตและข้อกังวลหลายประเด็น โดยเฉพาะข้อพิรุธในการดำเนินการของฝ่ายบริหารที่อาจเร่งรัดเกินความจำเป็น นอกจากนี้ ยังมองว่าร่างกฎหมายดังกล่าวอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 58 ที่กำหนดให้การดำเนินการใด ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต และสุขภาพของประชาชน ซึ่งจะต้องมีการศึกษาผลกระทบ ตลอดจนรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนอย่างรอบด้าน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการจัดทำประชาพิจารณ์ที่ผ่านมานั้น ไม่เป็นไปตามหลักวิชาการ โดยอ้างตัวเลขสนับสนุน 80% โดยไม่มีที่มาที่ชัดเจน ซึ่งหากจะอ้างตัวเลข ต้องมาจากการทำประชามติตามกระบวนการอย่างถูกต้อง
          ขณะเดียวกัน ร่างกฎหมายฉบับนี้อาจขัดต่อแนวนโยบายแห่งรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 65 เนื่องจากไม่มีการระบุเรื่องกาสิโนไว้ในนโยบายที่นายกรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภา อีกทั้งกระบวนการจัดทำร่างกฎหมายกลับเร่งรีบผิดปกติ ทั้งที่ยังไม่มีการกำหนดพื้นที่จัดตั้งหรือศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และสังคม (SIA) อย่างรอบคอบ แต่กลับพบว่า เอกชนบางรายที่สนใจลงทุนรับทราบข้อมูลล่วงหน้าอย่างละเอียด เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง จำนวนแห่ง อัตราภาษี ซึ่งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถให้ข้อมูลดังกล่าวได้ โดยประเด็นนี้เป็นข้อพิรุธสำคัญที่สะท้อนความไม่โปร่งใส และอาจเข้าข่ายทุจริตในเชิงนโยบาย โดยใช้คำว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แทนคำว่า กาสิโน เพื่อเลี่ยงแรงต้าน ทั้งที่จุดประสงค์หลัก คือ การเปิดบ่อนถูกกฎหมาย
          นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ ยังตั้งข้อสงสัยว่าหากมีการกำหนดให้เฉพาะผู้ที่มีเงินฝากเกิน 60 ล้านบาท เป็นผู้เล่น คิดเฉลี่ยแล้วมีประชากรเพียง 10,000 คนทั่วประเทศเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องของการพนันใต้ดินได้ อีกทั้งข้อมูลจากเอกชนกลับพบว่าหากคนไทยเล่นน้อยกว่า 50% จะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน ทำให้เกิดคำถามว่าเอกชนได้ข้อมูลเหล่านี้จากใคร และเอกชนยังทราบข้อมูลเชิงลึกกว่ารัฐมนตรี โดยสามารถระบุตำแหน่งที่ตั้งได้อย่างชัดเจน คือ กรุงเทพฯ 2 แห่ง เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต จังหวัดละ 1 แห่ง ทั้งที่รัฐบาลยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ
          ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ จึงขอเสนอให้รัฐบาลยุติร่างกฎหมายฉบับนี้โดยทันที และกลับไปเริ่มกระบวนการตั้งแต่ขั้นตอนที่ 1 คือ การรับฟังความคิดเห็นอย่างทั่วถึง กำหนดพื้นที่เป้าหมายเพื่อศึกษาผลกระทบในทุกมิติ และประเมินกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะจัดทำร่างกฎหมายอย่างโปร่งใสและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พร้อมย้ำว่าประเทศไทยยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และยังมีปัญหาอื่นที่สำคัญกว่านี้มาก ไม่ควรแลกอนาคตของสังคมกับธุรกิจที่เสี่ยงสูงและไร้ความยั่งยืนเช่นนี้

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ