นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ทำหน้าที่ประธาน กมธ. ซึ่งมีการพิจารณาถึงการประเมินผลกระทบ และความคุ้มค่าของนโยบายการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร ว่า กรณีที่วิปรัฐบาลได้เห็นชอบให้เลื่อนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไป แล้วนำร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. .... และร่างกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรม 4 ฉบับ ที่พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอร่วมกัน ขึ้นมาพิจารณาก่อน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังไม่ได้กำหนดว่าจะนำร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์กลับขึ้นมาให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาวาระรับหลักการหรือไม่ ช่วงเวลาใด เนื่องจากเป็นการตัดสินใจของวิปรัฐบาล เพราะร่างกฎหมายดังกล่าวพ้นจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งการที่วิปรัฐบาล เลื่อนการนำร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภา รัฐบาลก็พร้อมยอมรับ ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องดีเพราะจะได้มีเวลาชี้แจงให้ประชาชนเกิดความเข้าใจมากขึ้น
ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวมีข้อกังวลหรือไม่ว่าร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อาจถูกเลื่อนการพิจารณาออกไปแบบไม่มีกำหนด นายจุลพันธ์ กล่าวยืนยันว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ผ่านกระบวนการรับฟังความเห็นจากประชาชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว แต่ก็จำเป็นต้องมีการสื่อสารให้สังคมเข้าใจมากขึ้น อีกทั้งร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกบรรจุไว้ในระเบียบวาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เหลือเพียงรอการเลื่อนขึ้นมาพิจารณา
นายจุลพันธ์ กล่าวถึงข้อห่วงใยว่าเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลจะเพียงพอต่อการเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับนี้ในวาระรับหลักการหรือไม่ เนื่องจากพรรคประชาชาติ มีจุดยืนไม่รับร่างกฎหมายฉบับนี้ ว่า ส่วนตัวมั่นใจว่าสุดท้ายร่างกฎหมายฉบับนี้จะผ่านการพิจารณาในวาระรับหลักการ เพราะยังมี สส.ฝ่ายรัฐบาลที่เป็นเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แม้ว่ากฎหมายแต่ละฉบับ สส.จะมีความเห็นที่แตกต่างกัน แต่ก็จะมีการพูดคุยกันในพรรคร่วมรัฐบาลก่อน และเมื่อมีการลงมติจริง ก็เชื่อมั่นว่า เสียงของ สส.ฝ่ายรัฐบาลมีมากเพียงพออยู่แล้ว ที่จะเดินหน้าร่างกฎหมายต่าง ๆ
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง
