นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นำคณะ กมธ.ร่วมประชุมกับ ว่าที่ร้อยตรี กรกฎ ประเสริฐวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และปัญหาความต้องการด้านพื้นที่เส้นทางความมั่นคงทางชายแดน ตามแนวตะเข็บชายแดนไทย -กัมพูชา บริเวณเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าห้วยศาลา ณ ห้องประชุมสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี)
นายชีวะภาพ กล่าวว่า ภารกิจของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2.2 ล้านไร่ จากข้อมูลสถานการณ์การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า พบว่า สถิติคดีการกระทำความผิดกฎหมายป่าไม้ ปี 2554-2568 ในภาพรวม ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีจำนวนทั้งหมด 5,790 คดี แบ่งเป็นผู้ต้องหาชาวไทย จำนวน 2,142 ราย ชาวกัมพูชา จำนวน 2,742 ราย และชาวลาว จำนวน 148 ราย โดยส่วนใหญ่ค้าไม้พะยูง และไม้ประดู่ โดยปัจจัยหลักของการลักลอบการตัดไม้ทำลายป่า เกิดจากความไม่แน่ชัดของแนวหลักเขตแดนทางบก มีช่องทางธรรมชาติจำนวนมาก บางพื้นที่มีการซ่อนวัตถุระเบิดหรือสนามทุ่นระเบิด และกองกำลังติดอาวุธและรุกล้ำดินแดน ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหา อาทิ การจัดตั้งกองอำนวยการยุทธการสนธิป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า การจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด จุดเฝ้าระวัง พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีในการสนับสนุนการปฎิบัติงาน และลาดตะเวนเชิงคุณภาพ (Smart Patrol) ในพื้นที่เสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ
ประธาน กมธ. กล่าวด้วยว่า ตนได้นำคณะ กมธ. ลงพื้นที่ไปยังเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าห้วยศาลา พร้อมให้กำลังใจหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งข้อเสนอแนะโดยเฉพาะการผลักดันและสนับสนุนงบประมาณในทุกมิติ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการป้องกันและมาตรการในเชิงรุกอย่างรอบด้าน การสนับสนุนระบบสาธารณูปโภคเพื่ออำนวยความสะดวกด้านความมั่นคงในการป้องกันและดูแลรักษาพื้นที่ป่า เพื่อให้เกิดการดำเนินการในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม และประโยชน์สูงสุดต่อความมั่นคงของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้รับสำหรับใช้ประกอบการพิจารณาของคณะ กมธ.ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ข้อมูล/ภาพ