นายภัณฑิล น่วมเจิม โฆษกคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมคณะกรรมาธิการฯ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยมีการเชิญตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รวมถึงบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมรายใหญ่ เข้าชี้แจงกรณีระบบอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์ล่มทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเดือดร้อนเป็นวงกว้างต่อประชาชนและภาคธุรกิจ
นายภัณฑิล ระบุว่า เหตุขัดข้องดังกล่าวเกิดขึ้นนานหลายชั่วโมง ตั้งแต่ประมาณ 10.00-15.00 น. แม้ทางบริษัท ทรูฯ จะออกมาชี้แจงในรายละเอียดด้านเทคนิค ว่าเกิดจากปัญหาในระบบสถานีฐานกระจายสัญญาณ แต่กลับไม่มีการนำเสนอมาตรการเยียวยาผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน ขณะที่ กสทช. ชี้แจงว่า ได้เข้าไปตรวจสอบและแก้ไขปัญหาแล้ว แต่ไม่ได้มีการดำเนินการทางกฎหมาย หรือบทลงโทษใด ๆ ต่อบริษัท ทรูฯ แต่อย่างใด โดยสิ่งที่น่ากังวล คือ กสทช. ไม่มีมาตรการเชิงป้องกันหรือกำกับดูแลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดซ้ำ และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ กสทช. ยังไม่เคยบรรจุวาระเกี่ยวกับเหตุการณ์อินเทอร์เน็ตล่มเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขหรือวางมาตรการเยียวยาผู้บริโภคเลยแม้แต่ครั้งเดียว
นอกจากนี้ นายภัณฑิล ยังตั้งข้อสังเกตว่า กสทช. ไม่เคยมีการเรียกค่าปรับจากบริษัท ทรูฯ แม้แต่บาทเดียว ทั้งที่การให้บริการด้านโทรคมนาคมถือเป็นเรื่องของความมั่นคงของรัฐ เพราะคลื่นความถี่ถือเป็นทรัพยากรของชาติ การปล่อยให้เอกชนผูกขาดการถือครองและให้บริการ เปรียบเสมือนการเปิดช่องให้เอกชนควบคุมการสื่อสารของประเทศ อีกทั้งหากมีต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในบริษัทผู้ให้บริการ ก็เท่ากับว่ากำลังสูญเสียอธิปไตยด้านการสื่อสารโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้ภาครัฐเปิดโอกาสให้มีผู้ประกอบการรายอื่นเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ เพื่อกระจายอำนาจและลดการผูกขาด พร้อมทั้งขอให้มีการทบทวนบทบาทและแนวทางกำกับดูแลของ กสทช. อย่างจริงจัง
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
