นายอภินันท์ เผือกผ่อง รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา และประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการกระจายอำนาจ การถ่ายโอนภารกิจและการจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ลงพื้นที่เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับแนวคิดและประสบการณ์ ชุมชนท้องถิ่นตำบลแม่ทาจัดการตนเอง การจัดทำข้อบัญญัติท้องถิ่นเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ทา ชั้น 1 สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ทา จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายชาญยุทธ อ๋องทิพย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ทา คณะผู้บริหาร และบุคลากรขององค์การบริหารส่วนตำบลแม่ทา ตลอดจนประธานเครือข่ายการจัดกาทรัพยากรธรรมชาติตำบลแม่ทา คณะกรรมการสหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทา จำกัด และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ให้การต้อนรับ
โดยทาง กมธ.ได้รับฟังบรรยายสรุปในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับชุมชนท้องถิ่นตำบลแม่ทาจัดการตนเอง โดยองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ทา จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ต้นแบบที่ได้นำหลักการ “ชุมชนจัดการตนเอง” มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ โดยมีการจัดทำ ข้อบัญญัติท้องถิ่นว่าด้วยการจัดการตนเองของชุมชนตำบลแม่ทา ซึ่งถือเป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่เปิดพื้นที่ให้ประชาชนในท้องถิ่นสามารถกำหนดทิศทางการพัฒนาได้ด้วยตนเอง อย่างไรก็ดี ข้อบัญญัติดังกล่าวเกิดจากการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน โดยมีการกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิต และเศรษฐกิจของชุมชนผ่านกลไกที่ชาวบ้านร่วมออกแบบ เช่น การตั้งคณะกรรมการชุมชนตำบล การจัดทำแผนแม่บทของชุมชน และการใช้พื้นที่สาธารณะเพื่อกิจกรรมสร้างรายได้ของชุมชน ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาภายนอกและส่งเสริมการพึ่งตนเอง ภายใต้แนวทางการพัฒนาดังกล่าว ชาวบ้านในพื้นที่ได้รวมกลุ่มกันจัดตั้ง สหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทา จำกัด เพื่อดำเนินการผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยมีผลผลิตเด่น เช่น ข้าวโพดฝักอ่อน และ มันหวานญี่ปุ่น ซึ่งผ่านกระบวนการเพาะปลูกแบบปลอดภัย ได้มาตรฐาน และสามารถตอบโจทย์ตลาดคุณภาพระดับสูงได้ ทั้งนี้ ความสำเร็จของสหกรณ์ฯ คือการเชื่อมโยงผลผลิตกับ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ผ่านช่องทางจำหน่ายของ "เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์" และ "ท็อปส์ มาร์เก็ต" ส่งผลให้ผลผลิตของชาวบ้านแม่ทาสามารถเข้าถึงผู้บริโภคเมืองได้อย่างมั่นคง เพิ่มมูลค่าให้สินค้าเกษตร และสร้างรายได้หมุนเวียนกลับคืนสู่ชุมชนอย่างเป็นธรรม
ด้าน นายอภินันท์ ได้เสนอแนะว่า การพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับชุมชนและท้องถิ่น ควรน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งได้พระราชทานแนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง” อันเป็นแนวทางที่เหมาะสมกับบริบทของสังคมไทย และสามารถนำไปปรับใช้ได้ทั้งในระดับบุคคล ครัวเรือน ชุมชน และประเทศโดยหัวใจของแนวทางนี้ ประกอบด้วย 3 ห่วง ได้แก่ 1. การใช้จ่ายพอประมาณ 2. ความมีเหตุผล 3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดี และ 2 เงื่อนไขสำคัญ คือ มีความรู้คู่คุณธรรม เมื่อนำหลักการนี้ไปประยุกต์ใช้กับการพัฒนาชุมชนจะพบว่า หากชุมชนใดสามารถดำรงตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างแท้จริง ย่อมสามารถสร้างความเข้มแข็งจากภายในได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้ การจะเป็นชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืนได้นั้น จะต้องปลอดจากปัญหายาเสพติด ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาคน พัฒนาชีวิต และพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ จะนำข้อมูลที่ได้รับไปใช้ประกอบการพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง
สำนักประชาสัมพันธ์ วุฒิสภา ข้อมูล/ภาพ
