7 มิ.ย.68 - สส.โสภณ พรรคภูมิใจไทย เป็นประธานเปิดค่ายบำบัดฟื้นฟูผู้เสพสารเสพติดรุ่นที่ 2 จ.บุรีรัมย์ แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ ปรับรูปแบบใช้วัดเป็นสถานบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจ ใช้หลักธรรมมาผสมผสานกับการฟื้นฟูร่างกายจากแพทย์ พยาบาล

image

นายโสภณ ซารัมย์ ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร และ สส. จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เป็นประธานเปิดการเข้าค่ายบำบัดฟื้นฟูผู้เสพสารเสพติดรุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 5 – 13 มิถุนายน 2568 ตามโครงการรวมพลังรักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ ซึ่งจัดขึ้นจากความร่วมมือกับมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) มีพระครูพิชิตวรรณาภิราม เจ้าคณะตำบลหนองแวง นายนิสิต วงศ์หทัย นายอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ พ.ต.อ.อร่าม พุฒชาลี ผู้กำกับการ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ นายสุพจน์ พรอยู่ศรี ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นางรัศมี ชุดพิมาย สาธารณสุขอำเภอ นายนนท์ มูลดวง ผู้อำนวยการโรงพยาบาล พร้อมทั้ง หัวหน้าส่วนราชการทุกส่วน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง กำนัน ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อสม. อส.รักศรัทธา และผู้ปกครอง เข้าร่วมกิจกรรม ณ วัดฬุวรรณาราม ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ 

นายโสภณ กล่าวว่าโครงการหลักศรัทธาแก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการของอำเภอบ้านใหม่ชัยพจย์ ปรับหลักสูตรจาก 7 วันมาเป็น 9 วัน ทำให้ผู้เข้ารับการบำบัดมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น แสดงถึงความจริงจังในการแก้ปัญหาการระบาดของยาเสพติดในอำเภอชายแดน ที่มีรอยต่อหลายจังหวัด และทางโครงการได้ปรับรูปแบบใช้วัดเป็นสถานบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจ โดยใช้หลักธรรมมาผสมผสานกับการฟื้นฟูร่างกายจากแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และใช้ตำรวจ อส. มาเน้นวินัยการออกกำลังกาย อีกทั้งยังส่งเสริมให้มีการแข่งฟุตบอล 7 คน และฝึกอาชีพไปพร้อมกัน 
สำหรับที่มาของโครงการดังกล่าวนี้ เกิดจากการทำงานแบบบูรณาการ โดยมีการระดมทุนทุกภาคส่วนในอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จำนวน 842,502.88 บาท มูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) สนับสนุน 300,000 บาท รวมงบประมาณทั้งสิ้น 1,142,502.88 บาท ได้จัดสรรเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ คนบ้านใหม่ไชยพจน์ เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลในการสร้างทางเชื่อมระหว่างอาคารหลวงพ่อคูณปริสุทโธ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยที่มารับบริการ รวมทั้งกั้นห้องแยกผู้ป่วยจิตเวช และยาเสพติด ออกจากผู้ป่วยทั่วไป งบประมาณ 642,000 บาท อีกทั้งสมทบเข้ากองทุนยาเสพติดอำเภอ 250,000 บาทและสนับสนุนการดำเนินงานสุขภาพภาคประชาชน 250,000 บาท

นายโสภณ กล่าวทิ้งท้ายว่า ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าการแก้ปัญหายาเสพติดจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ ภาคประชาชน ผู้ปกครอง จะต้องมีส่วนร่วมจึงสำเร็จ จะเห็นได้จากโครงการนี้ไม่ได้ใช้งบประมาณทางราชการ แต่หากรัฐบาลรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีงบประมาณมาสนับสนุนจะเป็นเรื่องที่ดี 

สำหรับกิจกรรมค่ายครั้งมี มีผู้เสพสมัครใจเข้ารับการบำบัดจำนวน 56 ราย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ ลงทะเบียนคัดกรองสุขภาพและตรวจสารเสพติด ก่อนนำส่งเข้าค่าย 53 ราย และส่งต่อโรงพยาบาลบ้านใหม่ไชยพจน์อีก 3 รายเพื่อทำการบำบัดรักษาต่อไป

ณรารัฎฐ์  โพธินาม / ข่าว  เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ