1 มิ.ย. 68 - สส.ธัญวัจน์ พรรคประชาชน ดันต่อ ร่าง กม.คำนำหน้าตามสมัครใจ รับรองเพศสภาพอย่างถูกกฎหมาย หลังสมรสเท่าเทียมสำเร็จ ยินดี Pride month ปีนี้ คึกคัก หลายจังหวัดร่วมจัดกิจกรรม

image

          นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการผลักดันร่างกฎหมายเกี่ยวกับเพศว่า เมื่อปลายปี 2566 มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ให้มีการตั้งคณะทำงานและพูดถึงกฎหมายรับรองเพศ แต่เมื่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ พ.ศ. .... ที่ตนเป็นผู้เสนอเข้ามาสู่สภาผู้แทนราษฎร แต่สุดท้ายกลับถูกปัดตก จึงรู้สึกย้อนแย้ง และต้องตั้งคำถามว่ารัฐบาลเอาจริงกับเรื่องนี้หรือไม่ เพราะการขับเคลื่อนเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศไม่ใช่เพียงการผ่านสมรสเท่าเทียมและการประชาสัมพันธ์เพื่อจัดงาน ซึ่งไม่น่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่สิ่งสำคัญที่ต้องพูดถึงเป็นเรื่องของหลักการ คือ การยืนยันในหลักสิทธิมนุษยชน
          ส่วนสถานการณ์ของการผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับคำนำหน้านาม ขณะนี้ค่อนข้างเงียบเหงา แต่ในฐานะที่ตนทำประเด็นนี้ ได้ร่างฉบับใหม่ขึ้นมา คือ  ร่างกฎหมายคำนำหน้าตามสมัครใจหรือร่างกฎหมายอัตลักษณ์ทางเพศหรือรับรองเพศ ซึ่งพร้อมแล้ว แต่ยังไม่ได้ยื่นเข้าสู่สภาฯ เพราะยังกังวลว่าจะถูกปัดตกอีก อีกทั้งมองว่าสังคมไทยยังไม่ได้เข้าใจความหลากหลายทางเพศในเรื่องคนข้ามเพศ อัตลักษณ์ หรือเจตจำนงในการดำรงอยู่ในเพศนั้น ๆ โดยคนทั่วไปอาจรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องของตนเอง ไม่ได้เห็นถึงความจำเป็นในเรื่องของการต้องเปลี่ยนกฎหมาย ซึ่งตนอยากให้มองว่าหากเป็นคนรอบตัว คนใกล้ชิด จะเข้าใจคนเหล่านั้นได้อย่างไร ซึ่งหากสังคมยังไม่เข้าใจคนข้ามเพศก็อาจจะสะท้อนให้เห็นว่าคนเหล่านี้พร้อมจะได้รับความรุนแรงในครอบครัวได้ทันทีในทุกรูปแบบ
          นอกจากนี้ นายธัญวัจน์ ยังกล่าวถึงปัญหาที่พบหลังการบังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมว่า สังคมไทยเปิดรับเรื่องความหลากหลายทางเพศ แต่ก็ยังมีเงื่อนไข มีหลายเรื่องที่เป็นความเหลื่อมล้ำ และจะต้องผลักดันต่อ เช่น การสมรสกับคนต่างชาติ ที่บางประเทศยังไม่อนุญาต แม้จะมาจดทะเบียนสมรสในประเทศไทยก็ตาม โดยข้อจำกัดหลังสมรสเท่าเทียม ทราบว่า สถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น หากเป็นประเทศที่ไม่มีสมรสเท่าเทียม มาจดทะเบียนกับคนไทย แม้สังคมไทยจะยอมรับ แต่เมื่อบินกลับไปประเทศต้นทาง ไม่ได้รับการยอมรับ และไม่ออกใบสถานะโสดมาให้ กลายเป็นปัญหาในการจดทะเบียนสมรส
          ส่วนกิจกรรมในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจของผู้มีความหลากหลายทางเพศ (Pride Month) นั้น นายธัญวัจน์ กล่าวว่า มีหลายเครือข่ายร่วมจัดกิจกรรมในแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ ไม่ใช่เพียง Bangkok pride เท่านั้น ยังมีการจัดกิจกรรมในอีกหลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ สุรินทร์ อุบลราชธานี ภูเก็ต ซึ่งเป็นเรื่องดี ทำให้มีความหลากหลาย นอกจากนี้ ยังมองว่าการจะสนับสนุนเรื่องความหลากหลายทางเพศไม่ใช่เพียงผ่านการจัดกิจกรรมเท่านั้น แต่ในการทำงานขององค์กรต่าง ๆ ควรต้องส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ ที่เป็นเรื่องสำคัญด้วย

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ