นายคริษฐ์ ปานเนียม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดตาก พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าววิทยุกระจายเสียงรัฐสภาถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติโยกงบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท จากโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต มาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ การคมนาคม การท่องเที่ยว เพื่อลดผลกระทบส่งออกและเพิ่มผลิตภาพ ตลอดจนเศรษฐกิจชุมชนและอื่นๆ โดยมีเป้าหมายกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อรักษาการจ้างงาน ว่า จากกรณีดังกล่าวตนเห็นว่ารัฐบาลควรนำงบประมาณส่วนหนึ่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับประชาชนโดยเฉพาะปัญหาเร่งด่วนที่รองบประมาณข้ามปีไม่ได้ อย่างเช่นกรณีเมื่อปลายปีที่ผ่านมา หมู่บ้านท่าไผ่ ต.ยกกระบัตร อ.สามเงา จ.ตาก มีปัญหาเรื่องเส้นทางเชื่อมต่อในแม่น้ำวัง ที่สะพานท่าไผ่ขาด เนื่องจากน้ำท่วมหนัก ซึ่งได้มีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยการใช้สะพานชั่วคราวที่ยืมจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แต่กฎระเบียบของ ปภ.คือ ให้ยืมได้แค่ 3 เดือน เท่านั้น แต่ขณะนี้ล่วงเลยมา 7 เดือนแล้ว และงบประมาณที่จะแก้ไขไม่มี อีกทั้งจะซ่อมหรือสร้างใหม่ก็ไม่ได้ เนื่องจากติดกรอบข้อกฎหมายว่าจะใช้งบฉุกเฉินในการซ่อมแซมได้ต้องเบิกจ่ายภายใน 45 วัน แต่เนื่องจากสะพานนี้ขาดทั้งเส้นไม่สามารถซ่อมแซมได้ ต้องเป็นการสร้างใหม่ ด้วยการทำสะพานโค้งให้สูงขึ้น จึงต้องของบประมานข้ามปี ขณะเดียวกันปัจจุบัน ปภ.มีแผนจะยกเลิกใช้สะพานชั่วคราว เนื่องจากน้ำวังกำลังจะมาอีกรอบ เกรงว่าสะพานจะได้รับความเสียหายและถูกพัดไปกับน้ำ ทำให้เกิดความกังวลว่าประชาชนกว่า 13 หมู่บ้านจะเดินทางอย่างไร ซึ่งปัญหาเหล่านี้ถือว่าเป็นปัญหาเร่งด่วนและส่วนตัวเห็นว่าการที่รัฐบาลมีงบกลางตั้งไว้นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ขอให้รัฐบาลได้ลงมาดูสภาพปัญหา เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างตรงจุด โดยอาจนำงบฉุกเฉิน โดยเฉพาะงบที่โยกมาจากดิจิทัลวอลเล็ต มาแก้ปัญหาเร่งด่วนให้ประชาชนก่อนได้ เนื่องจากการสร้างสะพานใหม่ใช้เงินเพียงแค่ 10 ล้านบาท จากวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ไม่ถึง 0.1% ด้วยซ้ำ ซึ่งหากทำได้เชื่อว่าประชาชนจะยินดีและตนก็จะชื่นชมในสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการ
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง
