นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการพิจารณาศึกษาและติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการฟอกเงิน การใช้บัญชีม้าในกระบวนการยาเสพติดที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการซื้อขายไฟฟ้าบริเวณชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเชิญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล อาทิ กระทรวงมหาดไทย เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.แม่สาย อย่างไรก็ตาม พบว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ได้ส่งผู้แทนมาชี้แจง โดยแจ้งว่าผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะเป็นผู้ที่ชี้แจงแทน ขณะที่หน่วยงานอื่นได้ส่งเพียงตัวแทนมาชี้แจงเท่านั้น
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จากการรับฟังข้อมูลทราบว่า มีการขายไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านรอบประเทศไทย จำนวน 17 จุด ส่วนใหญ่จะอยู่ในฝั่งเมียนมา ซึ่งกมธ.ตั้งข้อสังเกตว่ากระแสไฟฟ้าที่จ่ายไปนั้นเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขบวนการค้ายาเสพติดหรือไม่ โดยมีจุดพิจารณาสำคัญ 2 จุด คือพื้นที่ทางอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่มีการขายไฟฟ้าไปยังเมียวดี และอีกหนึ่งจุดเป็นการขายไฟฟ้าจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ไปยังท่าขี้เหล็ก โดยคาดว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด
อย่างไรก็ตาม กมธ.ยังไม่ได้ข้อสรุปจากผู้ชี้แจงว่าจะมีการยุติการขายไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ แต่คาดว่าผลจะเป็นไปได้ใน 3 แนวทาง คือการไฟฟ้าฯ คงสภาพการขายไฟให้ประเทศเพื่อนบ้านต่อไป โดยไม่ได้สนใจว่าจะตกอยู่ในมือของใคร แนวทางที่ 2 คือการต่อขยายสัญญาบางส่วน และแนวทางที่ 3 คือการตัดไฟเพื่อทำให้ไฟฟ้าไม่ตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของอาชญากรข้ามชาติ ทั้งนี้ ในวันที่ 29 ม.ค. 68 จะมีการประชุมคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพื่อเสนอแนวทางการงดจำหน่ายไฟฟ้า ให้กับประเทศใกล้เคียง ในกรณีที่มีผลกระทบเรื่องความมั่นคงของประเทศ เพื่อเสนอเป็นความเห็นให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยตนหวังว่าจะมีข่าวดีในเรื่องนี้ที่จะนำไปสู่การตัดไฟเพื่อทำให้กระบวนการอาชญากรข้ามชาติโดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีความอ่อนแอมากยิ่งขึ้น
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
