นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง นายวะลีด อะบู อะลี (H.E. Mr. Walid Abu Ali) เอกอัครราชทูตรัฐปาเลสไตน์ประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ที่ขอเข้าเยี่ยมคารวะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย ณ ห้องรับรองพิเศษ 205 ชั้น 2 โซนกลาง รัฐสภา
โดย ประธานรัฐสภา ได้กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตฯ พร้อมคณะ ในโอกาสมาเยือนรัฐสภาไทยครั้งนี้ พร้อมแสดงความห่วงใยถึงสถานการณ์ในฉนวนกาซา ซึ่งรัฐสภาไทยให้การสนับสนุนจุดยืนปาเลสไตน์ โดยเมื่อมีโอกาสได้หารือกับผู้แทนประเทศผ่านเวทีประชาคมโลกต่างๆ ถึงแนวทางช่วยเจรจาหาวิธีการแก้ไขเพื่อนำมาซึ่งสันติภาพ นอกจากนี้ ไทยยังยินดีให้ความช่วยเหลือในด้านสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ทั้งด้านการแพทย์และอาหาร พร้อมหวังว่าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลเเละฮามาสจะบรรลุความสำเร็จ นำมาซึ่งความสงบสุขและความเป็นธรรมสู่ประชาชนปาเลสไตน์โดยเร็ว ทั้งนี้ ขอให้ปาเลสไตน์ช่วยดูแลและหาทางช่วยเหลือแรงงานไทยบางส่วนที่ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้ด้วย และหวังว่ารัฐสภาไทยจะมีโอกาสเยือนรัฐปาเลสไตน์ในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป
ด้าน เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นมิตรที่ดีและเป็นประเทศที่ปาเลสไตน์ให้ความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีบทบาทสูงในภูมิภาคอาเซียน และเป็นตัวกลางร่วมสร้างสันติภาพร่วมกับประชาคมโลกมาโดยตลอด มีความยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ ขอให้ไทยยึดมั่นในจุดยืนนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าสร้างสันติภาพและความมั่นคงให้กับภูมิภาคตะวันออกกลางต่อไป โดยปาเลสไตน์ ยืนยันจะพยายามอย่างเต็มความสามารถในการช่วยเหลือคนไทยที่ยังคงถูกควบคุมตัว นอกจากนี้ ยังหวังว่าในอนาคตปาเลสไตน์และไทย จะมีโอกาสได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในด้านต่างๆ มากขึ้น อันเป็นการกระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา และด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมและมีศักยภาพในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง