โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจาก ประธานมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ขอให้ตรวจสอบโครงการจัดหาระบบวิทยุสื่อสารข่ายบังคับบัญชาของกระทรวงมหาดไทย

        นายอัศวิน  สุทธิวิเชียรโชติ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากนายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และในฐานะประธานมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และคณะ ยื่นหนังสือ เรื่อง ขอให้ติดตามตรวจสอบโครงการจัดหาระบบวิทยุสื่อสารข่ายบังคับบัญชา (Digital Trunked Radio) ของกระทรวงมหาดไทย วงเงินงบประมาณกว่า 4,316 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวเป็นการ เช่า-ซื้อ อุปกรณ์โครงข่าย ลูกข่าย วิทยุพกพา และ เช่าบริการโครงข่าย สำหรับใช้งานในข่ายบังคับบัญชากระทรวงมหาดไทย โดยเป็นการจัดหาวิทยุสื่อสารชนิดมือถือ อุปกรณ์สื่อสารกระจายลงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ 1. จัดหาวิทยุสื่อสาร/อุปกรณ์สื่อสาร รวม 105 ชุด จัดหาอุปกรณ์สื่อสารมาตรฐาน LTE (LTE Device) จำนวน 145 ชุด 2. จัดหาอุปกรณ์สื่อสารมาตรฐาน LTE (LTE Device) จำนวน 145 ชุด ให้แก่หน่วยงานมหาดไทย และกระทรวงต่างๆ ที่เป็นลูกข่าย รวมถึง กรมประชาสัมพันธ์ กอ.รมน. และ ห้องประชาสัมพันธ์จังหวัด รวมทั้ง ศาลากลางจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด 3. จัดหาเครื่องวิทยุสื่อสารชนิดมือถือ (Handkeld) รวม 75,986 ชุด ให้แก่ ศาลากลางจังหวัด 76 จังหวัด ที่ว่าการอำเภอ สำหรับนายอำเภอ 878 อำเภอ และ ตำบล/หมู่บ้าน 75,032 แห่ง 4. เชื่อมโยงเครือข่าย ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เช่น เชื่อมวงจรความเร็วสูง วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงใน 878 อำเภอ รวมทั้ง ออกแบบ และติดตั้งระบบสื่อสารเฉพาะกิจ กลุ่มสนทนา หรือ กลุ่มการใช้งาน (Talk Group) ตามพิกัด 75,032 ตำบล และ 5. ติดตั้งอุปกรณ์และระบบวิทยุแบบดิจิทัลที่หอกระจายข่าวหมู่บ้าน ซึ่งมีอยู่เดิม ที่ว่าการอำเภอ ศาลากลางจังหวัด และหน่วยราชการ โดยมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น พบข้อสังเกตที่อาจเข้าข่ายการฮั้วประมูล ในขั้นตอนตั้งกรรมการร่างขอบเขตและคุณลักษณะเฉพาะของงาน (TOR) ที่อาจมีการล็อกสเปกคลื่นความถี่ และอุปกรณ์ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนบางรายหรือไม่ และในขั้นตอนกำหนดราคากลาง มีการนำบริษัทที่ไม่มีคุณสมบัติในการเข้าประมูลงาน มาทำราคากลางให้สูงเกินจริง ส่งผลให้ราคาอุปกรณ์วิทยุแบบพกพา อุปกรณ์เครื่องลูกข่าย และอุปกรณ์โครงข่าย สูงเกินจริง รวมทั้งหากมีการขยายโครงข่ายอาจต้องซื้อกับบริษัทที่เป็นตัวแทนขายเพียงรายเดียว ดังนั้น ตนจึงขอยื่นหนังสือถึงนายณัฐพงษ์  เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการตรวจสอบโครงการดังกล่าว ซึ่งอยู่ในกระทรวงมหาดไทย และจะเป็นข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจการทำงานของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน มี.ค.68 ด้วย

        โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะนำเรื่องนี้ไปนำเสนอต่อนายณัฐพงษ์  เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และจะดำเนินการตรวจสอบกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง