นายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับมอบหมายจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้แทนรับหนังสือจากนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม นำผู้เสียหายเข้ายื่นหนังสือ เพื่อขอให้ตรวจสอบกระบวนการเวนคืนที่ดินหมู่บ้านฉัตรหลวง 15 อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
นายแทนคุณ กล่าวต่อว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเวนคืนที่ดินหมู่บ้านฉัตรหลวง 15 ที่กรมทางหลวงเป็นผู้ดูแลการเวนคืน อาจส่อทุจริต โดยพบว่ามีบุคคลที่แอบอ้างว่าสามารถทําราคาเวนคืนในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง ต่อตารางวา จาก 44,450 บาท เป็นตารางวาละ 48,800 บาท ทำให้ราคาเวนคืนที่ดินจะได้ประมาณกว่า 364,000,000 บาท ทั้งที่ราคาจริงจะอยู่ที่ประมาณ 182,245,000 บาท การกระทำดังกล่าวขัดกับรายละเอียดในพระราชกฤษฎีกา ที่ประกาศเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2565 โดยในส่วนของค่าเวนคืนของสิ่งปลูกสร้าง ยังอยู่ในขั้นตอนรองบประมาณ เพื่อจัดสรรชำระค่าตัวสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือนในส่วนสิ่งก่อสร้างเพิ่มเติมของสมาชิกหมู่บ้าน และราคาของตัวอาคารบ้านแต่ละหลังจะไม่เท่ากัน โดยนอกจากพื้นที่เวนคืนของสมาชิกแล้ว ยังมีเนื้อที่เวนคืนส่วนกลางทั้งหมดโดยประมาณ 4,100 ดังนั้น ตัวแทนลูกบ้านซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจึงต้องการขอให้ตรวจสอบขั้นตอนการเวนคืนของกรมทางหลวง ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพื้นที่การเวนคืนทั้งหมคของหมู่บ้านฉัตรหลวง 15 ว่าถูกเวนคืนทั้งหมดจํานวนกี่หลัง แต่กลับไปให้ข้อมูลกับผู้ที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นนิติบุคคล นอกจากนี้ ยังพบมีกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างว่า มีความใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งมีผู้แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รังวัดเข้ามาแนะนําให้ต่อเติมบ้านในพื้นที่ว่างเปล่า เพื่อให้มีการประเมินราคาในอัตราสูงขึ้น โดยมีการตกลงกับกรรมการบางรายของนิติบุคคลหมู่บ้าน ทําเอกสารเพื่อให้ได้ราคาประเมินที่สูง โดยไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดให้กับลูกบ้านทราบ อีกทั้งตลอดระยะเวลาดำเนินการมีความไม่ชอบมาพากล ขาดการมีส่วนร่วมและมีข้อครหาเกี่ยวกับความไม่โปร่งใส และขอให้ตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงเรียกรับเงินสินบนหรือสิ่งตอบแทนหรือไม่ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว มีการยื่นหนังสือร้องไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.)และผลจากการยื่นเห็นว่ามีมูล จึงยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เมื่อปีที่แล้ว แต่ปรากฏว่ายังไม่มีความคืบหน้า จึงเดินทางมายื่นหนังสือต่อสภา ขอให้เร่งรัดดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใส โดยเฉพาะการใช้งบประมาณแผ่นดินจากภาษีของประชาชน และเพื่อคลี่คลายความผิดปกติหลายอย่างอันเกิดจากการเวนคืนดังกล่าว โดยขอให้สภาประสานหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อทําการตรวจสอบ ป้องกันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันต่อไป
ด้านนายเจษ กล่าวว่าจะนำเรื่องดังกล่าวตรวจสอบตามระบบสารบรรณและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
