นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีดาราชายชาวจีนหายตัวปริศนาบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา หลังถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่ของไทย หลอกมาแคสงาน ก่อนพบจุดสุดท้ายที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ว่าจากการตรวจสอบจากแหล่งข่าวในพื้นที่และจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้อมูลตรงกันว่า ดาราชายชาวจีนถูกพาข้ามไปฝั่งเมียนมาจริง แต่จะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้หรือไม่ ต้องติดตาม เบื้องต้นตนขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือติดตามดาราจีนคนดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยอย่างมาก เพราะไม่ใช่กรณีแรก แต่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทั้งกับคนไทยและต่างชาติ ที่ถูกพาตัวข้ามไปฝั่งเมียนมา มีคนจำนวนมากที่ถูกบังคับไปเป็นแรงงานทาสให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และหากไทยไม่ทำอะไร เชื่อว่าจะกระทบภาพลักษณ์ของประเทศ เนื่องจากไทยเป็นทางผ่านสำคัญ ซึ่งเกือบทั้งหมดของคนที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ว่าจะไปโดยสมัครใจหรือไม่ ล้วนต้องเดินทางผ่านประเทศไทย เมื่อเป็นเช่นนี้ภาพลักษณ์ไทยในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้รับความเสียหายอย่างมาก โดยส่วนตัวตนเคยได้รับการติดต่อจากสถานทูตของประเทศต่างๆ เพื่อให้ช่วยเหลือคนของประเทศนั้นๆ ที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ดังนั้น กรณีของดาราชาวจีนจึงไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นกรณีที่ควรจะเป็นบทเรียนให้ประเทศไทยต้องจริงจังในการแก้ปัญหานี้ และในการประชุม กมธ. วันที่ 9 ม.ค. นี้ จะมีการนำประเด็นดังกล่าวเข้าพิจารณาและเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ ซึ่งเชื่อว่ามีจำนวนมากกว่าแสนราย ดังนั้น รัฐบาลต้องจริงจังในการปราบปรามแก้ปัญหาค้ามนุษย์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนที่ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวไทยจะเสียหายไปมากกว่านี้
ส่วนมองอย่างไรกับการปราบปรามมาเฟียจีนของรัฐบาล ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โจทย์สำคัญของรัฐบาล คือ จะต้องวางแผนอย่างจริงจังว่าแต่ละกระทรวงจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหานี้ เพราะปัญหาชายแดนเป็นปัญหาที่ไม่สามารถละทิ้งได้ ต้องใช้มาตรการดำเนินการอย่างจริงจัง และอาจต้องทบทวนมาตรการที่เกี่ยวข้อง ส่วนจะนำประเด็นดังกล่าวไปอภิปรายในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือไม่นั้น ขอให้รอดู ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการรวบรวมข้อมูลความล้มเหลวของรัฐบาล ยิ่งรัฐบาลล้มเหลวในเรื่องต่างๆ มากเท่าใด ยิ่งเป็นโอกาสให้ฝ่ายค้านใช้เป็นเหตุผลในการสนับสนุนลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ พร้อมย้ำว่าการอภิปรายครั้งนี้ ฝ่ายค้านเต็มที่แน่นอน แต่ในขณะเดียวกันในระหว่างที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจยังไม่มาถึง ตนอยากเห็นรัฐบาลใช้อำนาจหน้าที่อย่างจริงจังในการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์
นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงกรณี 4 ลูกเรือประมงไทยที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวจากเมียนมา สะท้อนถึงความสัมพันธ์ไทย-เมียนมาที่รัฐบาลพยายามพูดว่ามีความสัมพันธ์อันดี สะท้อนถึงการขาดประสิทธิภาพของรัฐบาลไทยที่ไม่สามารถดำเนินการให้เมียนมาปล่อยลูกเรือประมงไทยได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลยืนยันว่า จะมีการปล่อยตัวในวันที่ 4 ม.ค. 68 ถือเป็นการหลอกลวงประชาชนเพื่อลดความเสียดทานหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ กมธ.ความมั่นคงฯ จะพิจารณาในวันที่ 9 ม.ค. นี้ เช่นเดียวกับการพิจารณาประเด็นการค้ามนุษย์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยหวังจะได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ เพราะ กมธ.คงไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆเพียงฝ่ายเดียวได้ แต่ต้องหารือกับฝ่ายความมั่นคง เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาและช่วยเหลือประชาชนต่อไป
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
7 ม.ค. 68 - ปธ.กมธ.ความมั่นคงฯ สภาผู้แทนราษฎร ชี้กรณีดาราจีนหายตัวชายแดนไทย-เมียนมา กระทบภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทย จี้รัฐบาลจริงจังแก้ปัญหา เตรียมเชิญหน่วยงานชี้แจงปมปัญหาค้ามนุษย์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ วันที่ 9 ม.ค. นี้