นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ว่าโดยภาพรวมน่าจะเปิดอภิปรายได้ในช่วงปลายเดือน ก.พ. ถึง ต้นเดือน มี.ค. นี้ ซึ่งต้องรอการเจรจากับพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้ง รวมถึงเลือกวันและเวลาที่รัฐมนตรีสามารถเดินทางมาชี้แจงได้ ส่วนประเด็นที่จะอภิปรายนั้นมีหลายเรื่อง ทั้งในระดับนโยบาย การบริหารราชการที่ล้มเหลว และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการส่อทุจริตคอร์รัปชัน พร้อมยืนยันว่า ปชน. ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลมาโดยตลอดตั้งแต่สมัย พรรคก้าวไกล โดยเฉพาะเรื่องการเอื้อทุนผูกขาด และการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อไปว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ละครั้ง มักมีเรื่องที่สื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นพิเศษอยู่แล้ว สำหรับครั้งนี้ฝ่ายค้าน มีเรื่องเด็ดที่ไม่เคยมีใครรับรู้มาก่อน แม้แต่สมาชิกในพรรคเอง กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมด ส่วนจะเป็นหมัดน็อครัฐบาลได้หรือไม่นั้น ตนเองเคยผ่านการอภิปรายซักฟอกรัฐบาลมาแล้ว 4 ครั้ง เรื่องน็อคนั้นคงหวังได้ยาก แต่ไม่แน่อาจมีการโหวตสวนมติจากฝั่งรัฐบาล เนื่องจากขณะนี้ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในช่วงเปราะบาง แต่สิ่งที่คาดหวังจริง ๆ คือ ทุกคนจะโหวตตามข้อมูลที่ฝ่ายค้านได้สะท้อนออกไปในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะมองว่าการซักฟอกรัฐบาลครั้งนี้จะทำให้ประชาชนรับทราบข้อมูลและหันมาสนใจการเมืองมากขึ้น
ต่อข้อถามว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงไม่กี่เดือน ฝ่ายค้านจะมีข้อมูลมาซักฟอกหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงาน แต่ทำงานมาแล้ว 1 ปีกว่า ตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี มีเพียงการปรับตำแหน่งรัฐมนตรีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และแน่นอนว่าไม่เพียงแต่นายกรัฐมนตรีแต่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายกระทรวงที่ฝ่ายค้านเตรียมพุ่งเป้าอภิปรายด้วย ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลายฝ่ายมองว่า หากถูกนำมาอภิปราย อาจถูกดักทางว่าเป็นบุคคลภายนอกนั้น ตนเองมองว่านายทักษิณอาจไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับรัฐบาลแต่ฝ่ายค้านจะอภิปรายให้เห็นถึงพฤติกรรมของฝ่ายบริหารที่เกิดขึ้นกับกรณีของนายทักษิณโดยเฉพาะประเด็นชั้น 14 ซึ่งที่ผ่านมาในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ฝ่ายค้านได้อภิปรายอย่างดุเดือด และไม่ได้เบามือให้กับรัฐบาลเช่นกัน
นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ยังมีความเข้มข้นเหมือนเดิม ฝ่ายค้านทำงานโดยยึดหลักเหตุและผล และไม่ได้แย้งรัฐบาลในทุกเรื่อง จะเห็นได้จากหลายร่างกฎหมายที่ฝ่ายค้านเสนอเข้าสู่สภา รัฐบาลได้เสนอร่างกฎหมายเข้ามาประกบด้วยเช่นกัน ซึ่งมองว่าเป็นประโยชน์และมีความสอดคล้องกัน
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง