นายวิรัตน์ ธรรมบำรุง รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภาพร้อมด้วย กมธ. ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน และติดตามการพัฒนาและส่งเสริมลำไย ณ จังหวัดจันทบุรี โดยมีนายสันติ รังษิรุจิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายประพิศ ญาณปัญญา นายอำเภอโป่งน้ำร้อน เกษตรกรและสหกรณ์จังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ โดย กมธ. ได้ศึกษาดูงานการพัฒนาและส่งเสริมเกษตรสร้างมูลค่าตามยุทธศาสตร์ชาติด้านการผลิตลำไย ณ แปลงปลูกลำไย นายจรินทร์ เหล็กเพชร และพบปะเกษตรกรผู้ปลูกลำไยและสมาคมชาวสวนลำไย ณ สวนลำไยเกษตรกร หมู่ที่ 5 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี โดยมีการพิจารณาหารือร่วมกันกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคให้กับเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2567 จังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่การเพาะปลูกลำไย 256,074 ไร่ ซึ่งมีปริมาณพื้นที่ลดลงจากปี พ.ศ. 2563 เนื่องจากผลกระทบจากการใช้สารครอเร็ตอย่างต่อเนื่อง จากนั้นผู้แทนเกษตรกรแปลงใหญ่ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาหลักของเกษตรกรในพื้นที่ ได้แก่ การซื้อขายของพ่อค้าคนกลางที่ไม่ทำตามข้อตกลงตามสัญญาการไม่รับซื้อผลผลิตหรือการกดราคา ปัญหาแรงงานย้ายถิ่นฐาน เป็นต้น และเกษตรกรเสนอให้แก้ไขปัญหาจากพ่อค้าคนกลาง โดยกำหนดราคาให้เป็นธรรมและไม่ทิ้งผลผลิตของเกษตรกร
อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบประเด็นปัญหาและนำไปหาแนวทางแก้ไขให้เกษกรในด้านต่าง ๆ อาทิ ราคาผลผลิต กระทรวงพาณิชย์มีแนวทางในการเพิ่มช่องในการจำหน่ายภายในประเทศมากขึ้น และปัจจุบันราคาผลิตถูกกำหนดโดยผู้รับซื้อจากประเทศจีนเป็นหลัก เนื่องจาก การส่งออกไปยังประเทศจีน ร้อยละ 80 -90 ซึ่ง กมธ.ได้รับทราบประเด็นปัญหาเพื่อนำไปประกอบการจัดทำรายงานผลการพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยุทธศาสตร์ลำไย พ.ศ. .... เพื่อให้เกษตรกรมีความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา