นายเอกชัย เรืองรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าววิทยุรัฐสภา ถึงประเด็นการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร(Entertainment Complex) ว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาดีได้อีกครั้งหนึ่ง หากมี Entertainment Complex ในจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้ว จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น ส่วนจังหวัดที่การท่องเที่ยวยังไม่ได้รับความนิยมมากนักจะช่วยให้มีชีวิตชีวาขึ้นได้ อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้ว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจเรื่องการเสี่ยงโชคลาภ ดังนั้นการทำให้ธุรกิจใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน ให้ถูกกฎหมายนั้น เป็นเรื่องที่ดีและสามารถสร้างกำไรมหาศาลจากธุรกิจดังกล่าวซึ่งไม่เพียงแต่รายได้จากการพนัน ซึ่งมีเพียง 30 % เท่านั้น แต่รายได้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 70 % มาจากการจับจ่ายใช่สอยในภาคบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และสวนสนุก เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเป็นธุรกิจที่ให้กำไรตอบแทนสูง มองว่าประเทศไทยควรมีกฎหมายพิเศษเข้ามาควบคุมโดยให้บริษัทที่ดำเนินการเรื่อง Entertainment Complex จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และกำหนดให้ 30% ของหุ้น เป็นการหุ้นโดยประชาชนรายย่อยเพื่อกระจายประโยชน์ไปยังประชาชนอย่างทั่วถึง อีกทั้งสามารถตรวจสอบได้จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
นายเอกชัย กล่าวด้วยว่าควรเริ่มต้นดำเนินการ Entertainment Complex นำร่องใน 4 จังหวัดก่อน ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และ ชลบุรี (พัทยา) พร้อมกับกำหนดให้บริษัทก่อตั้ง ต้องกระจายความเจริญไปสู่จังหวัดเมืองรองในอัตรา 70 ต่อ 30 เพื่อกระจายรายได้อย่างทั่วถึง โดยอาจมีแพ็คเกจท่องเที่ยวเข้ามาดึงดูดความสนใจของนักเสี่ยงโชค นอกจากนี้รัฐบาลควรควบคุมเรื่องจำนวนไม่ให้มากเกินไป และสร้างสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการมอมเมาประชาชน ขณะเดียวกันการคัดกรองบุคคลที่จะเข้าสู่ Entertainment Complex ได้นั้น ควรได้รับการพิจารณาจากสถาบันการเงิน ด้วยการอนุมัติคุณสมบัติทางการเงิน เช่นเดียวกับการยื่นกู้สินเชื่อ และจำกัดขอบเขตการเล่นพนันแต่ละประเภท
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง