นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้แทนประธานสภาผู้แทนราษฎร รับการยื่นหนังสือจาก นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ที่ร้องเรียนขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาและเอาผิดกรณีมีการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในสังคมด้วยการดูหมิ่นศาสนาอิสลาม โดยประธานชมรมสันติประชาธรรม ระบุว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนชาวไทยพุทธ และไทยมุสลิม เกี่ยวกับพฤติกรรมของทนายความคนหนึ่งที่ดูหมิ่น เหยียดศาสนา และมีส่วนร่วมในการนําข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับศาสนาอิสลามมาเผยแพร่โจมตีผ่านสื่อสังคมออนไลน์ สร้างความแตกแยก และความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ทำให้ประชาชนทั่วไปที่ได้เห็นสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นภาพที่มีมุสลิมชายผู้เคร่งครัดในศาสนาขี่หมูโพสต์ทางเฟซบุ๊กและเปิดเป็นสาธารณะ แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมเหยียดหยามศาสนาอิสลามอย่างชัดเจน และถือเป็นการหยามเกียรติและไม่ไห้เกียรติชาวมุสลิมไทยและมุสลิมทั่วโลก ต่อมาได้มีการโพสต์ข้อความที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง สร้างความตื่นตระหนกตกใจ และเกิดความหวาดกลัวหวาดระแวงจนอาจนําไปสู่ความแตกแยกระหว่างศาสนาได้ ทําให้ชาวมุสลิมรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น เพื่อไม่ให้สังคมไทยเกิดความแตกแยกรุนแรงบานปลายไปมาก จึงขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการทั้งทางอาญาและทางปกครองเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังรับเรื่องว่าประเทศไทยมีกฎหมายที่รองรับสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาและให้การรับรอง 5 ศาสนา เพื่อให้ประชาชนผู้นับถือศาสนาต่าง ๆ อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แม้มีความเชื่อทางศาสนาที่แตกต่างกัน แต่สามารถดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข การที่มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งนำความเชื่อทางศาสนาที่แตกต่างกัน มาเป็นเหตุมาทำให้สังคมไทยเกิดความแตกแยกถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงต้องหาทางระงับและแก้ไขปัญหาโดยด่วน สำหรับกรณีนี้ตนจะนำเรื่องเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำไปสู่การพิจารณาให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
ณรารัฏฐ์ โพธินาม / ข่าว เรียบเรียง