สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (สำนักงาน กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงกรณีที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงตามที่ กกต. ได้เห็นชอบแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ที่กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 อาจกระทบต่อความสะดวกของพี่น้องประชาชนในการไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ว่า การกำหนดวันเลือกตั้ง กรณีครบวาระ (จัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน) ตามปกติ กกต. จะกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ของสัปดาห์สุดท้ายก่อนครบ 45 วัน แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ วันสุดท้ายตรงกับวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ.68 จึงทำให้ไม่เหลือระยะเวลาที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และสุ่มเสี่ยงกับการจัดการเลือกตั้งเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงได้กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 และเหตุผลที่ กกต. ไม่กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค.68 เนื่องจากต้องมีการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด 76 จังหวัดใหม่ และมีระยะเวลาให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับประชาชนและหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงขั้นตอนที่ กกต.ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย เช่น การตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครการวินิจฉัยสิทธิผู้สมัคร และในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศ มีหน่วยเลือกตั้งประมาณ 90,000 กว่าหน่วย ที่ต้องส่งหีบบัตรเลือกตั้งไปสถานที่ที่ อบจ.กำหนด หากเกินระยะเวลาดังกล่าว อาจจะไม่ต้องด้วย พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562
สำนักงาน กกต. ระบุด้วยว่า การพิจารณาสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อเสร็จสิ้นการรับสมัครระหว่างวันที่ 23 – 27 ธ.ค.67 ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ อบจ.ต้องตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ภายใน 7 วันนับแต่วันปิดรับสมัคร คือ วันที่ 3 ม.ค.68 หากผู้สมัครผู้ใดไม่มีชื่อในประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครให้ยื่นคำร้องต่อ กกต. ภายใน 3 วันนับแต่วันที่ประกาศรายชื่อผู้สมัคร คือ วันที่ 6 ม.ค.68 ตามมาตรา 52 และมาตรา 55 แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 ให้ยื่นคำร้องต่อ กกต. โดยให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเป็นผู้รับคำร้อง เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาสิทธิสมัครรับเลือกตั้งพิจารณาคำร้อง พยานหลักฐาน หรือความปรากฏว่าผู้สมัครไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อเสนอความเห็นให้ กกต. มีคำวินิจฉัยโดยเร็ว
สำนักงาน กกต. ชี้แจงว่า นอกจากนี้ ตามมาตรา 56 กรณีความปรากฏหรือได้รับแจ้งก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 20 วัน ว่าผู้สมัครไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งให้ กกต. วินิจฉัยให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 วัน ถ้ากำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค.68 จะมีระยะเวลาพิจารณาสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 9 วัน คือ ระหว่างวันที่ 7 – 15 ม.ค.68 แต่การกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 จะมีระยะเวลาพิจารณาสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 15 วัน คือ ระหว่างวันที่ 7 – 21 ม.ค.68 ในการพิจารณาสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ กกต. ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานระหว่างผู้ร้องและผู้ถูกร้องเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
สำนักงาน กกต. ชี้แจงถึงกรณีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทำงานโรงงาน หรือบริษัทเอกชนไม่สามารถมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 ได้ทันนั้น สำนักงาน กกต. ขอชี้แจงว่าจะมีหนังสือประสานไปยังสภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด นายจ้าง สถานประกอบกิจการ และส่วนราชการต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่ออนุญาตและอำนวยความสะดวกให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 โดยไม่ถือเป็นวันลา – วันหยุด ตามมาตรา 117 แห่งกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นฯ อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้ง นายก อบจ. และ นายก อบจ. ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 สำนักงาน กกต. ส่วนกลาง สำนักงาน กกต. ประจำจังหวัด และองค์การบริหารส่วนจังหวัด จะมีการประชาสัมพันธ์และเชิญชวนให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างทั่วถึง รวมถึงขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคีเครือข่ายร่วมรณรงค์การเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (สำนักงาน กกต.) ข้อมูล/ภาพ