นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ให้การรับรอง นายรัคมัต บูดีมัน (H.E. Mr. Rachmat Budiman) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ณ ห้องรับรองพิเศษ 204 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา ฝั่งวุฒิสภา ในโอกาสอำลาพ้นจากหน้าที่ เนื่องจากจะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ประธานวุฒิสภากล่าวว่า ไทยและอินโดนีเซียมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาอย่างยาวนานในทุกมิติ โดยอินโดนีเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่พระมหากษัตริย์ไทยเสด็จเยือนถึง 3 พระองค์ และในปีนี้ยังเป็นวาระครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งทั้งสองประเทศได้ร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองตลอดทั้งปี
โอกาสนี้ ประธานวุฒิสภาขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์และผลักดันการยกระดับความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อันนำไปสู่ความร่วมมือในหลายสาขา ทั้งด้านการค้า การลงทุน อุตสาหกรรม พลังงาน การท่องเที่ยว ตลอดจนการรับมือภัยคุกคามด้านความมั่นคงและอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดและการหลอกลวงทางออนไลน์ ส่วนมิติความสัมพันธ์ด้านรัฐสภา เอกอัครราชทูตฯ มีบทบาทในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐสภาไทยและรัฐสภาอินโดนีเซีย ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี ขณะเดียวกัน การจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 75 ปี ตลอดปีที่ผ่านมา ยังช่วยให้ประชาชนไทยได้สัมผัสดนตรี ศิลปะ และวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นการทูตเชิงวัฒนธรรม เชื่อมโยงความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
ด้าน นายรัคมัต บูดีมัน กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย ได้รับความร่วมมือและมิตรไมตรีจากประธานวุฒิสภาและรัฐสภาไทยเป็นอย่างดี พร้อมขอบคุณที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 75 ปี และชื่นชมบทบาทของประธานวุฒิสภาในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชน การเกษตร เศรษฐกิจฐานราก และศิลปวัฒนธรรมเอกอัครราชทูตฯ ยังขอบคุณรัฐบาลและรัฐสภาไทย ที่ให้ความช่วยเหลือนำเหยื่อชาวอินโดนีเซียจำนวนมากซึ่งตกเป็นเหยื่อแก๊งหลอกลวงออนไลน์ในประเทศเมียนมา เดินทางกลับประเทศโดยผ่านประเทศไทย พร้อมยืนยันว่าอินโดนีเซียพร้อมสนับสนุนความร่วมมือกับไทยในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์
ในช่วงท้าย ประธานวุฒิสภาระบุว่า ไทยได้ยกปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ และผลักดันในระดับนานาชาติ จนได้รับการสนับสนุนให้เป็นวาระเร่งด่วนของสหภาพรัฐสภา (IPU) ขณะเดียวกัน รัฐสภาไทยได้ปรับปรุงกฎหมายหลายฉบับ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
คณรัตน์ ยินดีมิตร ข่าว/เรียบเรียง
