นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เป็นประธานการประชุม กมธ. โดยมีวาระพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรคลื่นความถี่โทรคมนาคมบริเวณชายแดน- ประเทศเพื่อบ้าน การใช้คลื่นความถี่นอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รวมทั้งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และการใช้ประโยชน์พื้นที่ในการติดตั้งเสาสัญญาณ ได้เชิญผู้แทนจาก บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าร่วมชี้แจง อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 บริษัทได้ทำหนังสือแจ้งขอเลื่อนการเข้าร่วมประชุมออกไป 30 วัน โดยให้เหตุผลว่าข้อมูลการติดตั้งเสาสัญญาณในเขตป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์มีจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้เวลาตรวจสอบ
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวถึงกรณีที่มีการตรวจพบเสาสัญญาณกลางสวนยางพารา ใกล้ริมแม่น้ำเมย ในพื้นที่หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก นั้น จากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้มีการถูกทุบรื้อถอนเสาดังกล่าวออกไปแล้วเมื่อหลายเดือนก่อนหลังฝ่ายความมั่นคงตรวจพบ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพิกัดจุดตั้งเสาพบอีกว่าอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) ซึ่งทับซ้อนกับ “ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ละเมา” นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า เสาดังกล่าวเป็นของเครือข่ายโทรศัพท์รายหนึ่ง ปล่อยสัญญาณเต็มระบบหันหน้าไปยังประเทศเมียนมา เพื่อสนับสนุนกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกด้วย และยังมีข้อมูลด้วยว่า บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติฯ เคยยื่นขออนุญาตกรมป่าไม้ติดตั้งเสากว่า 1,700 ต้น แต่กรมป่าไม้ ได้มีการอนุญาตเพียง 10 ต้น เท่านั้น ล่าสุดกรมป่าไม้ ได้แจ้งเวียนคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปูพรมตรวจสอบเสาสัญญาณในเขตป่าทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการใช้พื้นที่รัฐสนับสนุนอาชญากรรมสแกมเมอร์ (Scammer) โดยกำหนดให้รายงานผลภายในวันที่ 29 พ.ย.68 และจะรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายภายในเดือน ธ.ค.68
ประธาน กมธ. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กล่าวว่า ที่ประชุม กมธ. ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อผลประโยชน์ต่อประชาชน ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ กมธ. จะติดตามการดำเนินงาน และพร้อมสนับสนุนภาครัฐในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง
