นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาเตือนแคมเปญรณรงค์หาเสียงของพรรคประชาชน "มีเราไม่มีเทา" ให้ระวังในการจัดตั้งรัฐบาล ว่า พรรคเพื่อไทยจะเอาเทาหรือ หากไม่เห็นด้วย ก็ทำแคมเปญได้ ว่า "มีเพื่อไทยก็มีเทา" คำว่าเทา คือ เรื่องของสิ่งผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ ยาเสพติด สแกมเมอร์ การหลอกลวงออนไลน์ ธุรกิจผิดกฎหมายต่าง ๆ ที่คิดว่าไม่ควรจะเข้ามายึดประเทศ ผ่านกลไกทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการนำนักการเมืองมาเป็นเครือข่าย จนกลายเป็นนักการเมืองสีเทา ใช้เงินสกปรกไปซื้อเสียง ซื้อตำแหน่งให้กับข้าราชการระดับสูง เอาข้าราชการระดับสูงมาเป็นสมุน เป็นมือเป็นไม้ในการรับใช้ และเอานักการเมืองสีเทา ไปทำนโยบายเพื่อเอื้อ ประโยชน์ให้กับทุนสีเทา ที่เอาเงินมายึดประเทศ ผ่านการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หรือเข้ามาลงทุน ในธุรกิจต่าง ๆ หรือซื้อธุรกิจเพื่อฟอกเงิน แล้วตัดราคา ทุ่มตลาดเพื่อทำลายธุรกิจของคนไทย ตนขอตั้งคำถามกลับไปยังหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่จริง ๆ คิดว่าต้องตระหนักมากกว่าใคร เพราะเคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ทราบเรื่องภัยความมั่นคงของทุนสีเทาข้ามชาติเป็นอย่างดี
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า การที่พรรคออกแคมเปญแบบนี้ ซึ่งตนไม่อยากให้เรียกว่าเป็นแคมเปญ แต่อยากให้เป็นสามัญสำนึกของนักการเมืองที่พึงจะมี เป็นความรับผิดชอบทางการเมือง ที่ประชาชนมอบให้ คำว่า เทา ไม่ได้พุ่งเป้าว่าเป็นนาย ก. หรือนาย ข. แต่หมายถึงระบบป้องกันที่ไม่ให้ทุนสีเทาเข้ามาเป็นภัยร้ายกับประชาชนและผู้ประกอบการ ดังนั้น หากจะต้องจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ก็จะต้องมีนโยบายในเรื่องนี้ที่ชัดเจน เพื่อป้องกันและปราบปรามให้สิ้นซาก ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะไม่เอาหรือ หากพรรคประชาชนยื่นเงื่อนไขแบบนี้ในการจัดตั้งรัฐบาล หรือเพราะพรรคเพื่อไทยเกรงใจ ว่าหากสืบสาวไปจะเจอกลุ่มของตัวเอง ซึ่งพรรคประชาชนยืนยันว่าจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ต่อให้จะเคยรู้จักบุคคลนั้น ๆ โดยในแวดวงการเมือง อาจจะมีการโยงเส้นทางทางการเงิน แล้วจะไปเจอใครที่บังเอิญรู้จัก หรือเพิ่งจะมารู้ว่าบุคคลคนนั้นทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อถามถึงนโยบายของพรรคประชาชน หลังพรรคเพื่อไทยชูนโยบายล้างหนี้และชี้ว่ามีนโยบายล้ำหน้ากว่าพรรคอื่นไปมาก นายวิโรจน์ กล่าวว่าต้องรอการพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งการจัดการกับทุนเทาและสแกมเมอร์ถือว่าเป็นรากฐานสำคัญ หากจัดการไม่ได้ และคนไทยต้องเสียเงินทุกวัน วันละกว่า 300,000,000 บาท รวมถึงต้องมีนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน และต้องทำให้มั่นใจให้ได้ก่อนว่า ดอกเบี้ยและสัญญาที่ประชาชนทำไว้กับสถาบันการเงินมีความเป็นธรรม จากนั้นจึงคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนชำระหนี้ได้ ต้องมีความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะเข้ามาตรวจสอบว่าสถาบันการเงินมีการคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรมหรือไม่ จากนั้นก็จะต้องส่งเสริมการลงทุน และดึงเงินจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมและนวัตกรรม รวมถึงส่งเสริมนักลงทุนของไทยให้สามารถเติบโตได้ นอกจากนี้ จะต้องมีการลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนอย่างเป็นธรรม เช่น ค่ารักษาพยาบาล หากทำได้พร้อมกัน เป็นการคิดอย่างเป็นระบบ แต่ขอให้อดใจรอทีมเศรษฐกิจของพรรค ตนไม่อยากเปรียบเทียบว่าพรรคใดก้าวหน้ากว่าหรือไม่ก้าวหน้ากว่า แต่เป็นเรื่องของการคิดรอบคอบหรือไม่รอบคอบ พร้อมยืนยันว่าพรรคประชาชนไม่เคยคิดนโยบายเศรษฐกิจที่เอื้อให้กับนายทุน หรือจะต้องไปเกรงใจนายทุนสีเทากลุ่มใด
เมื่อถามว่ามองปรากฏการณ์ความขัดแย้งระหว่างพรรคกล้าธรรม และพรรคประชาชนอย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า แต่ละคนต้องตรวจสอบซึ่งกันและกัน เป็นเรื่องที่ดีของประชาชนที่จะได้ข้อมูลที่โปร่งใส ซึ่งตนมั่นใจในนางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน อยู่แล้ว เพราะรู้จักและทำงานร่วมกันมา ซึ่งนางสาวรักชนกพร้อมเปิดอยู่แล้ว และนายไผ่ ลิกค์ สส.จังหวัดกำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคกล้าธรรม มาร่วมเปิดเผยด้วย หากพบข้อบกพร่องที่อธิบายได้ ก็แก้ไขปัญหากันไป
เมื่อถามว่าแคมเปญ "มีเราไม่มีเทา" เป็นการบีบให้พรรคภูมิใจไทยเลือก ระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคกล้าธรรม ในการเลือกตั้งสมัยหน้าหรือไม่ นายวิโรจน์ ระบุว่า หากใครไม่เทาก็อยู่เฉย ๆ แต่ตอนนี้มีคนเดือดร้อนกันเยอะไปหมด หากไม่เทาก็ไม่ต้องกลัว ต่างคนก็ต่างทำงานกันต่อ ตนก็พร้อมถูกตรวจสอบ ซึ่งพรรคประชาชนไม่เคยจับผิดหรือหยิบยกเรื่องเล็ก ๆ หรือทำนิติสงคราม จะจับผิดแต่เรื่องใหญ่ เชื่อมโยงระหว่างหลักฐานกับหลักฐาน และทำแต่เรื่องที่มีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่า พรรคประชาชนตรวจสอบเพียงพรรคกล้าธรรม ไม่ตรวจสอบพรรคภูมิใจไทย นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไม่เคยไปโฟกัสที่พรรคกล้าธรรม แต่พูดภาพรวมว่า ต้องตรวจสอบตามระบบ ซึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมพรรคกล้าธรรมจึงตอบสนอง มีปฏิกิริยาของพรรคกล้าธรรมเอง ไม่ได้กล่าวหา จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้กล่าวหา แต่เป็นการตั้งข้อสังเกต
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง