โดย
นายรังสิมันต์ โรม ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร รับมอบเอกสารหลักฐานและแผนผังความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันและแก๊งสแกมเมอร์ จากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เพื่อขอให้ กมธ.ตรวจสอบเส้นทางการเงินดังกล่าว
โดย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นหนึ่งในประเด็นที่ กมธ.ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศว่าปัญหาสแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งไม่ใช่เพียงปัญหาภายในประเทศ แต่เป็นปัญหาระดับโลก ซึ่งเรื่องพนันและสแกมเมอร์มีความเกี่ยวเนื่องกัน เนื่องจากใช้ระบบและมีแหล่งที่มาคล้ายคลึงกัน โดยคาดว่าจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ กมธ.ภายในสัปดาห์หน้า และจะดำเนินการโดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับมีรายชื่อบุคคลหลายคน บางส่วนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปัจจุบัน พร้อมยืนยันว่าจะให้โอกาสทุกฝ่ายในการชี้แจง ไม่ได้มีการตัดสินล่วงหน้า และข้อมูลที่ได้รับจะถูกส่งต่อให้หน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบตามกระบวนการที่ถูกต้อง ทั้งนี้ ตนคาดหวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่นายอัจฉริยะ ได้ยื่นเรื่องไว้แล้วจะดำเนินการตรวจสอบอย่างรอบคอบและเป็นธรรม เพื่อสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้ โดยไม่มีการแทรกแซง
ต่อข้อถามถึงความเป็นกลางของ กมธ.ในการตรวจสอบประเด็นดังกล่าว นายรังสิมันต์ ชี้แจงว่า กมธ.มีสมาชิกจากทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน มีหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและผลประโยชน์ของประเทศชาติ ทั้งนี้ รัฐบาลมีข้อมูลเพียงพอในการตรวจสอบเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ต้องการขณะนี้ คือ ความมุ่งมั่นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการอย่างจริงจัง การทำหน้าที่ตรวจสอบของ กมธ.จึงมี 2 ประเด็นหลัก คือ การกระตุ้นให้หน่วยงานต่างๆ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ และการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่มีข้อมูล เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐมีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาสแกมเมอร์ค่อนข้างช้า ทั้งที่สแกมเมอร์สร้างความเสียหายหลายด้าน ทั้งด้านการเงิน การค้ามนุษย์ และความเชื่อมั่นของประเทศ แม้นายกรัฐมนตรีจะให้ความสำคัญ แต่ยังคาดหวังให้มีแผนงานที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยควรมีบทบาทนำในการแก้ปัญหานี้ พร้อมย้ำว่า ทุนสีเทาเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ และกำลังแพร่ขยายไปในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ หากรัฐบาลไม่เข้าใจและแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง อาจส่งผลกระทบต่อประเทศในระยะยาว
ด้าน นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ข้อมูลที่นำมามอบให้ กมธ.เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่ตรวจสอบได้ โดยต้องการให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันไม่ให้เงินจากแหล่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเข้าสู่ระบบการเมือง เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของกระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งหลังจากตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้ว พบข้อมูลว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วน ทั้งข้าราชการตำรวจ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางคน อาจมีความเกี่ยวข้องกับเงินที่มาจากแหล่งต่างๆ โดยกระจายผ่านบัญชีธนาคารหลายบัญชี ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ต้องการการตรวจสอบอย่างละเอียดจากหน่วยงานที่มีอำนาจ แม้นายกรัฐมนตรีจะประกาศให้เป็นวาระของชาติ แต่ตนยังคาดหวังให้เห็นการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อให้การปราบปรามอาชญากรรมประเภทนี้เกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง
