นายชวน หลีกภัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึงสถานการณ์วิกฤติศรัทธาพุทธศาสนา ส่งผลให้พุทธศาสนิกชนทำบุญที่วัดน้อยลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อวัดขนาดเล็กทั่วประเทศ ว่า ผลกระทบดังกล่าวเกิดขึ้นจากกรณีของอดีตพระภิกษุบางรายที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับสีกา และการทุจริจเงินบริจาค เช่น กรณีวัดพระบาทน้ำพุ ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของชาวพุทธทั่วประเทศอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่ามหาเถรสมาคม และสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ออกระเบียบเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์ในการบริหารเงินวัดให้มีระเบียบมากขึ้น แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายลงเนื่องจากมีผู้ทำบุญน้อยลง หรือเกือบจะไม่ทำบุญ ทำให้วัดกำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก จากการสอบถามเจ้าอาวาสระดับผู้ใหญ่ประมาณการณ์ว่า จากจำนวนวัดประมาณ 3,000–4,000 วัด มีวัดที่สามารถช่วยตัวเองได้ไม่เกินพันกว่าวัดเท่านั้น ทั้งนี้ ตนตั้งคำถามและข้อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอย่างเร่งด่วน 3 ประการ คือ 1. มาตรการช่วยเหลือทางการเงินเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของวัดขนาดเล็กที่ไม่มีเงินสำหรับบำรุงรักษา ค่าไฟเผาศพ หรือค่าน้ำประปา หรือไม่ อย่างไร 2. หน่วยงานที่เป็นเจ้าหนี้ของวัด เช่น การไฟฟ้าและการประปา มีแนวทางช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้มีการเร่งรัดตัดน้ำตัดไฟวัด และ 3. รัฐบาลมีนโยบายพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ได้อย่างไร
ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงว่า รัฐบาลยินดีใช้กลไกที่มีอยู่เพื่อช่วยเหลือวัดที่เดือดร้อน โดยเฉพาะการเร่งรัดให้ “กองทุนวัดช่วยวัด” และ “กองทุนศาสนสมบัติกลาง” ซึ่งเป็นกองทุนที่ใช้จ่ายเงินตามงบประมาณประจำปีของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รับผิดชอบบริหารจัดการทรัพย์สินของวัด หรือศาสนสมบัติ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพระพุทธศาสนา โดยให้ความช่วยเหลือวัดที่เดือดร้อนเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าน้ำมันที่ใช้ในการฌาปนกิจ ให้รีบติดต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หากงบประมาณจากกองทุนดังกล่าวไม่เพียงพอ รัฐบาลจะเสนอให้ใช้ “งบกลาง” เพื่อแก้ปัญหา แต่จำใช้จ่ายเงินเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะผู้ที่จะแก้ปัญหานี้ได้ดีที่สุด คือ คณะสงฆ์ และพุทธบริษัทเอง อย่างไรก็ตาม ตนจะนำเสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเร็วที่สุด เพื่อให้มีมติสั่งการให้หน่วยงานสาธารณูปโภคที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ เช่น ไฟฟ้าและประปา ผ่อนปรนระเบียบให้แก่วัดทั้งหลายโดยเร็ว
ศ.ดร.บวรศักดิ์ กล่าวถึงนโยบายคุ้มครองพระศาสนา ว่า รัฐบาลได้ดำเนินการยก (ร่าง) ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดยเพิ่มกลไกลตั้ง คณะกรรมการระดับชาติและจังหวัด และการแต่งตั้ง คณะกรรมการคุ้มครองพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (คพช.) โดยมีประธานที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งด้วยพระสังฆราชานุมัติและความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม กรรมการประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขา ปปง. และ ปปท. นอกจากนี้ จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการคุ้มครองพระพุทธศาสนาในทุกจังหวัด (ยกเว้น กทม.) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน โดยคณะกรรมการเหล่านี้มีอำนาจหน้าที่ในการดูแลให้วัดทั้งหลายเกิดความเรียบร้อย น่าเชื่อถือ และน่าศรัทธา ขณะที่การจัดการบัญชีวัด นั้น ครม.มีมติให้กรมบัญชีกลางวางระบบบัญชีของวัด เพื่อให้วัดนำระบบ e-donation เพื่อแยกเงินบริจาคให้วัด/ศาสนา ออกจากเงินบริจาคส่วนตัวของพระสงฆ์
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง