นายวันมูหะมัดนอร์มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรองนายคำพัน อั่นลาวัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ประจำประเทศไทย ในโอกาสอำลาตำแหน่ง ณ ห้องรับรองพิเศษ 205 อาคารรัฐสภา โดยมี นายภมร เชาว์ศิริกุล ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย - ลาว นายดำรงพุฒตาล ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา กิตติมศักดิ์ นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร นายธงชาติ รัตนวิชา เลขานุการประธานรัฐสภา และนางสาวสตีจิตร ไตรพิบูลย์สุข รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ เอกอัครราชทูต สปป.ลาวได้แสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมยกย่องพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยที่มีต่อ สปป.ลาว ตลอดมา โดยเฉพาะในอดีต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เคยเสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานเปิด สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2537 ขณะที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จเยือน สปป.ลาวเป็นประจำทุกปี ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพอันยาวนานระหว่างสองประเทศ
เอกอัครราชทูต สปป.ลาว ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างผู้นำรัฐบาลไทยและลาว โดยเฉพาะกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งมีความเข้าใจอันดีต่อผู้นำลาว พร้อมคาดหวังให้ความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ปลายปี พ.ศ. 2568 จะมีการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - ปากซัน) ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและการคมนาคม รวมถึงเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟความเร็วสูงคุนหมิง - ลาว - ไทย - สิงคโปร์ เอกอัครราชทูต สปป.ลาว ขอบคุณประเทศไทยที่เปิดโอกาสให้แรงงานลาวทำงานในไทย และให้ความร่วมมือในด้านพลังงาน การแก้ปัญหายาเสพติด และการปราบปรามกลุ่มสแกมเมอร์ออนไลน์ พร้อมระบุว่าปีนี้ครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - ลาว และแสดงความยินดีหากประธานรัฐสภาไทยจะเดินทางเยือนลาวในโอกาสต่อไป
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่ารัฐสภาไทยพร้อมสนับสนุนความร่วมมือระหว่างสองประเทศอย่างเต็มที่ และเห็นว่าการเปิดสะพานมิตรภาพแห่งใหม่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวระหว่างกันให้เติบโตยิ่งขึ้น
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง