นายณรงเดช อุฬารกุล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ณรงเดช อุฬารกุล ระบุถึงกรณีที่ตนเคยตั้งกระทู้ถามปัญหาราคาข้าวต่อนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (รมว.พาณิชย์) และได้รับคำตอบเรื่องการส่งเสริมการปลูกกล้วย ซึ่งตนได้เคยชี้แนะให้ศึกษาข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญก่อน เพราะพื้นที่ปลูกข้าวกับกล้วยมีความแตกต่างกันสิ้นเชิง ทั้งนี้พื้นที่ปลูกข้าวมักอยู่ในที่ลุ่ม มีน้ำขัง ส่วนกล้วยหอมต้องปลูกในพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วมขัง และระดับน้ำใต้ดินต้องลึกกว่า 75 เซนติเมตร เพื่อป้องกันรากเน่าและเป็นโรค อีกทั้งหากเกษตรกรจะเปลี่ยนจากการปลูกข้าวมาปลูกกล้วย จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อปรับพื้นที่และยกร่องใหม่ทั้งหมด ดังนั้นมองว่ากรณีล่าสุดที่นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์คนปัจจุบัน มีข้อเสนอให้เกษตรกรหันมาปลูกกล้วยหอม น่าจะมาจากข้อมูลชุดเดียวกันคือเรื่องความต้องการของตลาดญี่ปุ่น ทั้งนี้ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองประมาณ 74,027 ไร่ ผลผลิตปีละกว่า 120,000 ตัน แต่ส่งออกไปญี่ปุ่นได้เพียง 3,000-4,000 ตัน จากความต้องการปีละประมาณ 8,000 ตัน จึงสะท้อนว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่พื้นที่ปลูกไม่พอ แต่เกิดจากคุณภาพผลผลิตไม่เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น
นายณรงเดช เผยว่าเกษตรกรที่ปลูกกล้วยหอมทองเพื่อส่งออกต้องทำสัญญากับผู้ประกอบการล่วงหน้า และต้องจัดหาผลผลิตให้ได้จำนวนและคุณภาพตามที่กำหนด หากกล้วยไม่ได้มาตรฐาน ทั้งเล็กไป ใหญ่ไป หรือสุกไม่ตามเกณฑ์ จะถูกตัดออกจากการส่งออก เกษตรกรต้องหาตลาดระบายเอง และหากส่งไม่ครบตามสัญญาอาจถูกปรับ ทำให้ต้องรับภาระต้นทุนสูงขึ้น ปัจจุบันกล้วยหอมในตลาดมีมาก ทั้งที่ปลูกในประเทศและนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ราคากล้วยหอมทองที่ขายหน้าสวนเหลือเพียงกิโลกรัมละ 7 บาท ดังนั้นหากรัฐมนตรีฯต้องการให้มีการส่งออกเพิ่ม ควรหาตลาดรองรับผลผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานด้วย เพราะสินค้าเกษตรไม่สามารถควบคุมคุณภาพให้เท่ากันทุกผลได้เหมือนสินค้าอุตสาหกรรม
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง
เพจเฟซบุ๊ก ณรงเดช อุฬารกุล /ข้อมูล/ภาพ (แฟ้มภาพ)