9 ต.ค.68 - กมธ.การท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร เชิญ รมว.ท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประกอบการในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา พร้อมรับ 11 ข้อเสนอแก้ปัญหา ไว้พิจารณา ขณะสัปดาหน้า เตรียมเชิญหน่วยงาน หารือความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการ

image

        นางสาวชนก จันทาทอง ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ นำ นางมุกดา เจริญประสิทธิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตราด ในฐานะผู้แทนสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา ทั้งในส่วนของจังหวัดสระแก้ว ตราด จันทบุรี บุรีรัมย์ อุบลราชธานี สุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ แถลงข่าวถึงกรณีสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา ได้ยื่นข้อเสนอมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาภายใต้กรอบหน้าที่และอำนาจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต่อที่ประชุม กมธ.การท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งที่ประชุม กมธ. ในวันนี้ (9 ต.ค.68) ได้มีพิจารณาเรื่องมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา พร้อมเชิญ ผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจง รวมถึง นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าร่วมด้วย

        นางมุกดา เจริญประสิทธิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตราด ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา กล่าวว่า จากสถานการณ์เหตุพิพาทชายแดนไทย - กัมพูชา ในช่วงตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา เป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ และอาจจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอันดับท้าย ๆ ของประเทศไทยที่นักท่องเที่ยวจะให้ความสนใจสนับสนุน ทำให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจ รวมถึงการท่องเที่ยวที่จะย่ำแย่ลงไปอย่างมากเรื่อย ๆ ยิ่งกว่านั้นนับถึงปัจจุบัน ความช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ ยังไม่มีส่งมาถึงผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้ง 7 จังหวัด แต่อย่างใด ดังนั้น เพื่อให้การช่วยเหลือเร่งด่วนและรวดเร็ว เพราะความขัดแย้งนี้ยังไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อใด ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา จึงขอรัฐบาลได้เร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามข้อเรียกร้องที่ได้ยื่นไปแล้ว พร้อมมีแผนฟื้นฟูทั้งระยะสั้นและระยะกลาง รวมถึงการวางแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะยาว จำนวน 11 ประการ อาทิ ประการแรก จัดโครงการพิเศษเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา โดยเฉพาะเป็นกรณีพิเศษ ส่วนกรณีที่สอง ให้สิทธิพิเศษลดหย่อนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปใช้บริการการท่องเที่ยวในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา เป็นกรณีพิเศษ ด้านกรณีที่สาม ให้ภาครัฐจัดการประชุมสัมมนาดูงานในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา เป็นกรณีพิเศษ และข้อเสนออื่น ๆ ตามที่ได้ยื่นในหนังสือขอเยียวยาเรียกร้องจากภาครัฐไปแล้ว โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กมธ. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนชาวไทยทุกคน จะเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา ที่เปรียบเหมือนเป็นแนวหน้าของประเทศไทย และให้ความช่วยเหลือ เห็นใจ และให้การสนับสนุนคนแนวหน้าให้อยู่รอดได้โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังท่ามกลางสถานการณ์อันยากลำบากในขณะนี้ ต่อไป

        ด้าน นางสาวชนก จันทาทอง ประธาน กมธ.การท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลชุดใหม่ ว่าผู้ประกอบการในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักมาก ซึ่งในส่วนของ กมธ. ได้พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่เท่าที่ กมธ. จะมีกลไกอยู่ พร้อมกันนี้ ตนขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ว่า 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา มีความพร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ โดยจุดที่มีความขัดแย้งปะทะกันนั้นเป็นแค่บางส่วนเท่านั้น ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า กมธ. จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวกับการเงินการคลัง มาหารือถึงการขอความช่วยเหลือในการพักหนี้ให้กับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและขอวงเงินช่วยเหลือในระยะสั้น เพื่อให้ธุรกิจมีเงินหมุนเวียนได้ พร้อมเชิญกรมสรรพากร มาสอบถามว่ามีมาตรการช่วยเหลือเป็นพิเศษหรือไม่สำหรับผู้ประกอบการในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย - กัมพูชา 

 

คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ