นายธนภัทร ตวงวิไล สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ตำบลส้มป่อย อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ กรณีพนังกั้นน้ำแม่น้ำชีพังทลายว่า ประชาชนในหมู่ที่ 3 บ้านโนนเชือก และหมู่ที่ 5 บ้านกุดตูม ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังเกิดอุทกภัยน้ำท่วมในปี 2565 ส่งผลให้พนังกั้นแม่น้ำชีทรุดตัวและพังลงเป็นบริเวณกว้างยาวกว่า 300 เมตร เหตุพนังกั้นน้ำพังดังกล่าวทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้านได้ และต่อมาในปี 2566 ได้เกิดเหตุเศร้าสลด เมื่อชาวนารายหนึ่งซึ่งใช้รถจักรยานยนต์กลับจากทำนา พลัดตกลงไปในแม่น้ำชีและเสียชีวิต เนื่องจากบริเวณพนังที่พังทลายไม่มีสิ่งกั้นหรือป้องกันอันตราย ขณะนี้ในพื้นที่ยังคงมีความเสี่ยงสูง เพราะเป็นช่วงฤดูฝน ปริมาณน้ำในแม่น้ำชีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากพนังกั้นน้ำส่วนที่เหลืออยู่พังทลายลงอีก มวลน้ำจำนวนมหาศาลจากแม่น้ำชีอาจไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและที่อยู่อาศัยของประชาชนกว่า 14 หมู่บ้านในตำบลส้มป่อย ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมความเดือดร้อนและสร้างความเสียหายร้ายแรงทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน
นายธนภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการติดตามข้อมูลทราบว่าจังหวัดชัยภูมิได้เสนอเรื่องต่อกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณาดำเนินการแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต่างรอคอยการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ นายธนภัทร ขอให้กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เร่งพิจารณาดำเนินการซ่อมแซมและปรับปรุงพนังกั้นน้ำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่ตำบลส้มป่อยโดยเร็วที่สุด
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง