นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อม นายปิยรัฐ จงเทพ โฆษก กมธ. แถลงข่าวถึงผลการประชุม กมธ. ครั้งที่ 92 ในวันนี้ (2 ต.ค.68) ว่า ที่ประชุม กมธ. ได้มีการพิจารณาศึกษาปัญหาการฟอกเงินของกลุ่มทุนกัมพูชาที่เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย กรณีนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือนายเบน สมิธ ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยเชิญบุคคลให้มาแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นต่อที่ประชุม กมธ. ทั้งหมด 7 ราย โดยที่ประชุม กมธ. พบว่า ปัจจุบัน นายเบน สมิธ ได้หลบหนีออกจากประเทศไทยไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ก.ย.68 ด้วยไพรเวทเจ็ททะเบียนเครื่องบิน T7TCD แต่ยังไม่ทราบว่าปลายทางเป็นที่ใด ขณะเดียวกัน ตนได้รับทราบข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า ในปี 2564 ทาง ก.ล.ต. ได้มีการกล่าวโทษ นายเบนจามิน เบอร์เกอร์ ซึ่ง กมธ. เชื่อว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือนายเบน สมิธ ปัจจุบันคดีอยู่ในชั้นอัยการ แต่ยังไม่ทราบว่าขณะนี้คดีดังกล่าวมีความคืบหน้าอย่างไร แต่เบื้องต้นทาง ก.ล.ต. จะได้ไปตรวจสอบต่อไป ส่วนประเด็นเรื่องสัญชาติ พบว่า ปัจจุบันยังไม่ได้มีการให้สัญชาติไทยกับนายเบน สมิธ ซึ่งเบื้องต้นทางกระทรวงมหาดไทย ได้ชี้แจงว่าเรื่องนี้ยังอยู่ในกระบวนการและยังมีปัญหาในเรื่องข้อท้วงติงต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซ็น กระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะไม่มีการให้สัญชาติไทยกับนายเบน สมิธ ในเวลานี้อย่างแน่นอน ดังนั้น กมธ. จึงตั้งคำถามว่าเวลานี้ นายเบน สมิธ หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ใครจะต้องรับผิดชอบ
นายรังสิมันต์ ประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ กล่าวว่า อีกประเด็นที่กังวล คือ มีการฟอกเงินจำนวนผ่านบริษัทแห่งหนึ่ง และ กมธ. เชื่อว่าอาจมีความเชื่อมโยงไปถึงกรณีการซื้อทองคำจำนวนมากจากประเทศไทยส่งออกไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งนี้ ในภาพรวม กมธ. ได้เห็นถึงความพยายามของหน่วยงานในการดำเนินการ แต่ต้องยอมรับความล่าช้าในการดำเนินการด้วย โดย กมธ. จะมีการประชุมพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งในสัปดาห์หน้าในวันพฤหัสบดีที่ 9 ก.ย.68 พร้อมจะเชิญผู้เกี่ยวข้องให้ข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้ที่รู้จักกับนายเบน สมิธ ตามที่มีภาพถ่ายการทำบุญร่วมกัน ซึ่ง กมธ. เชื่อว่าน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด รวมถึงจะมีการพิจารณากรณีของนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเงิน 40 ล้านบาท พร้อมเชิญธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้ามาให้ข้อมูลด้วย นอกจากนี้ จะมีการพิจารณากรณีมีกระแสข่าวว่ากองทัพเรือจะใช้อาคารของแก๊งสแกมเมอร์ร่วมกับทางกัมพูชา เพื่อประสานงาน พร้อมเชิญกองเรือมาชี้แจงว่าเหตุใดจึงต้องดำเนินการเช่นนี้ ทั้งที่อาคารดังกล่าวได้ก่อสร้างรุกล้ำดินแดนของประเทศไทย เพราะหากกองทัพเรือไปใช้อาคารดังกล่าวจะเปรียบเหมือนเป็นการรับรองในสิ่งที่ผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมายหรือไม่
คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง