โดย
นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2568 โดยรางวัลชนะเลิศ ประเภทเรื่องสั้น ได้แก่ เรื่อง "ความฝันของแมวจร" โดย นางสาวรตี รติธรณ รางวัลรองชนะเลิศ 2 รางวัล ได้แก่ เรื่อง "คลุก" โดย ซีริน หรือ นายถนอม ขุนเพชรและเรื่อง "หนังสือแสดงความไม่ยินยอม โดยนางสาวกมลพรรณ ธิติรังสี
ประเภทบทกวี รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรื่อง "หนังสือ (ไม่ถึง) ราชการ" โดย นายสุนทร พรหมเพศ และรางวัลรองชนะเลิศ 2 รางวัล ได้แก่ เรื่อง "เจเนอเรทีฟเอไอที่ไม่มีคำตอบ" โดย นายพล พิมพ์โพธิ์ และเรื่อง "เมื่อประชาชนพูด" โดย นายปริญญ์ สระปัญญา
ทั้งนี้ ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศทั้งประเภทเรื่องสั้นและบทกวี ได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้า
และเกียรติบัตรของประธานรัฐสภา พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท ผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ ของทั้งสองประเภทได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้าและเกียรติบัตรของประธานรัฐสภา พร้อมเงินรางวัล รางวัลละ 60,000 บาท ส่วนผู้ที่ได้รับรางวัลชมเชย ได้รับเกียรติบัตรของประธานรัฐสภา รางวัลละ 30,000 บาท
นายไชยา กล่าวว่า รางวัลพานแว่นฟ้า ไม่ใช่เพียงเวทีประกวด แต่เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้วรรณกรรมได้สะท้อนถึงพลังของประชาชน ส่งเสริมการใช้ภาษา สร้างความคิดสร้างสรรค์ และจิตสำนึกพลเมือง เพื่อร่วมกันสร้างสังคมประชาธิปไตยที่มั่นคง เป็นมรดกทางวัฒนธรรม อันล้ำค่าของชาติ ประชาธิปไตยเปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้นี้จะเติบโตแข็งแรง และออกดอกผล ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งจากประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ และผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างรับผิดชอบ หน่วยงานรัฐที่ทำงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ จะเป็นสื่อกลางที่เชื่อมผู้คนในสังคม ดังนั้น พลังแห่งวรรณกรรม จึงเปรียบเสมือนต้นไม้ประชาธิปไตยที่ออกผลเป็นประโยชน์แก่สังคมโดยรวม
นอกจากนี้ ในงานดังกล่าวยังมีการเสวนา หัวข้อ "รางวัลพานแว่นฟ้าในมุมมองของประชาชน" โดย นายอภิชาติ ดำดี อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) นักคิด นักพูด นักเขียน รองศาสตราจารย์ ขวัญชนก นัยจรัญ ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม นายวุฒินันท์ ชัยศรี อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ราชภัฏนครราชสีมา นางนงค์ลักษณ์ บัทเลอร์ สื่อมวลชนสายวรรณกรรม/นักจัดรายการ รวมทั้งมีกิจกรรมการแสดงดนตรีชุด "สุนทรียภาพแห่งประชาธิปไตย : ภาพสะท้อนสังคมผ่านบทเพลง โดย วงข้าวเปลือก
สำหรับรางวัลพานแว่นฟ้าเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้ชนะการประกวดเรื่องสั้นและบทกวี ที่ส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยคณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้าได้จัดประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า มาตั้งแต่ปี 2545 โดยเห็นความสำคัญของวรรณกรรมการเมือง ซึ่งมีบทบาทต่อการพัฒนาการเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตย รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญในการแสดงออกทางการเมือง และสร้างการ มีส่วนร่วมของประชาชน อันเป็นการสืบสานวรรณกรรมการเมืองให้คงอยู่กับสังคมไทย และมีส่วนสำคัญในการช่วยปลูกจิตสำนึกความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
ประมวลผลภาพ
