ในการเปิดให้คณะผู้แทนประเทศสมาชิกสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ซึ่งมีจำนวน 10 ประเทศ หารือกับประเทศผู้สังเกตการณ์ 14 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในกรอบของการประชุมใหญ่ AIPA ครั้งที่ 46 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย พบว่ากัมพูชายังคงยกประเด็นสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาขึ้นมาหารือในที่ประชุม โดยอ้างว่าไทยเป็นผู้รุกล้ำอธิปไตยและโจมตีกัมพูชา เช่น ในระหว่างการหารือของรัฐสภาอาเซียนกับสภายุโรป
นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร สส. ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการเข้าหารือกล่าวว่า บรรยากาศในการหารือกับสภายุโรปช่วงต้นเป็นไปด้วยดีจนกระทั่งเปิดให้กลุ่มประเทศใน AIPA เปิดประเด็นหารือโดยเรียงตามลำดับตัวอักษรเมื่อถึงลำดับของประเทศกัมพูชา กลับพบว่าพยายามหยิบยกเรื่องความขัดแย้งชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา มาเรียกร้องความสนใจ ความสงสาร ต่อประชาคมโลก เช่น สหภาพยุโรป กัมพูชาพยายามเล่าความเท็จต่าง ๆ ว่าประเทศไทยไป รุกราน ซึ่งเป็นการกล่าวความเท็จโดยสิ้นเชิง เมื่อถึงลำดับของประเทศไทย ตนจึงอยู่เฉยไม่ได้ ได้รีบชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ให้ชาวโลกในสหภาพยุโรป รับทราบข้อเท็จจริงต่าง ๆ พร้อมเผยว่า ตามที่ไทยได้เคยชี้แจงไปแล้วหลายครั้งในหลายเวที เช่น การที่กัมพูชาเล็งเป้าหมายมาที่พลเรือนของไทย เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวา และย้ำว่าประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง โดยสันติภาพ และพยายามย้ำให้เห็นว่าไทยมีกลไกการพูดคุยทวิภาคี จึงไม่จำเป็นต้องนำเรื่องต่าง ๆ ขึ้นมาพูดคุยบนเวทีพหุภาคี อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่กัมพูชาได้หยิบยกประเด็นขึ้นมาในที่ประชุม สภายุโรปไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นที่กัมพูชาเสนอ มีเพียงพูดคุยเรื่องระเบียบโลกในปัจจุบันที่มีความปั่นป่วนเท่านั้น
ขณะที่ นางสาวภัสริน รามวงศ์ ผู้แทนรัฐสภาไทยในการหารือร่วมกับประเทศแคนาดา เปิดเผยด้วยว่ากัมพูชาได้หยิบยกประเด็นความขัดแย้งชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ขึ้นมาหารือในที่ประชุมสมาชิกรัฐสภาอาเซียนกับแคนาดาด้วยเช่นกัน ในส่วนนี้มองว่ากัมพูชาใช้เวที AIPA อย่างไม่สร้างสรรค์ เพราะการหารือดังกล่าวถือเป็นการหารือในเรื่องเศรษฐกิจ และสังคม ระหว่างประเทศในภูมิภาคกับกลุ่มประเทศสังเกตการณ์ แต่กัมพูชากลับใช้เวทีนี้เรียกร้องให้ประเทศตัวเองด้วยความเท็จ ขณะเดียวกันเผยว่าในการประชุมผู้นำทางการเมืองสตรี (WAIPA Women Political Leaders Forum : WPLF) ครั้งที่ 2 ทางกัมพูชามีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดเช่นเดียวกัน ว่าไทยโจมตี จนทำให้เพื่อนสมาชิกหันมามองที่ไทยอย่างเกิดความสงสัย และพยายามจะแสดงให้เห็นถึงท่าทีว่าไม่ควรใช้เวทีนี้ในการมาพูดเรื่องนี้ จนไทยต้องยกมือตอบโต้ แต่ทันทีที่กัมพูชาพูดเสร็จแล้วเดินออกจากห้องโดยไม่รอรับฟัง ซึ่งตนมองว่าเวทีนี้ควรจะเป็นการหารือถึงสิทธิของสตรีและเด็ก กลุ่มเปราะที่ควรจะได้รับ แต่กัมพูชากลับใช้เวทีนี้มาเรียกร้องข้อเท็จ ถือว่าเป็นการใช้เวทีไม่สร้างสรรค์ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อนสมาชิกรัฐสภาอาเซียนในห้องประชุมต่างให้กำลังใจอย่างมากต่อไทย และตนยังมองว่าการกระทำของกัมพูชาเป็นการเตรียมการมา เพราะการพูด เป็นลักษณะการอ่านสปีช ใช้น้ำเสียงสูง แข็งกร้าว จนทำให้บรรยากาศ เป็นเหมือนสนามอารมณ์ของตัวเอง
อรวรรณ วงศ์จันทรมณี / ข่าว
พีระพงษ์ เจริญภักดี / เรียบเรียง