นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การต้อนรับคณะสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน นำโดย นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา อุปนายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน พลเอก อุทัย ชินวัตร ประธานคณะกรรมการการทหาร สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน นายไพศาล พืชมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมฯ คณะกรรมการสมาคมฯ ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และข้าราชการผู้รับทุนการศึกษา รุ่นที่ 21 จำนวน 60 ทุน ทั้งนี้ นายสุรพล นาควานิช ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารรัฐสภา
ประธานรัฐสภา กล่าวให้โอวาทใจความตอนหนึ่งว่า รู้สึกยินดีที่ได้ต้อนรับคณะสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ที่ได้มาเยี่ยมชมรัฐสภาซึ่งเป็นสภาของประชาชน สำหรับการเยี่ยมชมในวันนี้ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการนิติบัญญัติ ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมของรัฐสภา โดยเฉพาะห้องที่ใช้ต้อนรับในครั้งนี้ คือห้องประชุมงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎร และห้องประชุมรัฐสภาซึ่งเป็นที่ประชุมขอสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกรัฐสภา พร้อมกันนี้ ได้กล่าวขอบคุณสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ที่ได้จัดสรรทุนการศึกษาแบบให้เปล่าแก่ข้าราชการหน่วยงานต่าง ๆ ของประเทศไทย จำนวน 60 ทุน เพื่อไปศึกษาภาษาจีน ณ มหาวิทยาลัยหัวเฉียว เมืองเซียะเหมิน ประเทศจีน เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งมีกำหนดเดินทางวันที่ 19 กันยายน นี้ และได้แสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนไปศึกษาภาษาจีนในครั้งนี้
ทั้งนี้ ประธานรัฐสภา กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตนได้ไปร่วมงานฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ณ ประเทศจีน ทำให้ทราบว่าประเทศจีนมีการเปลี่ยนแปลงและเจริญก้าวหน้าอย่างมาก มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา และคาดว่าในอนาคตประเทศจีนจะก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่มี GDP อันดับหนึ่งของโลก
ประธานรัฐสภา ได้กล่าวอวยพรให้ผู้ที่เดินทางไปศึกษาภาษาจีนในครั้งนี้ เดินทางโดยสวัสดิภาพ ตั้งใจในการเรียนรู้ทั้งด้านภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณี และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่าง ๆ เพื่อนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและเป็นที่พึ่งพิงของประชาชนต่อไป
สำหรับทุนการศึกษาภาษาจีนดังกล่าว มีผู้สำเร็จการศึกษาแล้วรวมกว่า 1,000 คน โดยประธานรัฐสภาได้ยกหลักคำสอนในศาสนาอิสลามเกี่ยวกับความรู้ไว้ 2 ประการ คือ 1. ความรู้เป็นสิ่งจำเป็น ต้องเรียนรู้ตั้งแต่เกิดจนตาย 2. แม้ความรู้จะอยู่ไกลเพียงใด ก็ต้องแสวงหาเพื่อเรียนรู้ พร้อมทั้งกล่าวว่าประเทศจีนสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วเพราะมีปัจจัยสำคัญ 3 ประการ คือ 1. การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด 2. การทำทุกอย่างด้วยความต่อเนื่อง 3. การพัฒนาต้องอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ข้อมูล / ภาพ
