นายปิยรัฐ จงเทพ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมพิจารณาถอดบทเรียนความขัดแย้งตามแนวชายแดนในเรื่องการป้องกันอำนาจอธิปไตย พร้อมกับการพิจารณาศึกษาการใช้เทคโนโลยีในการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน ซึ่งการศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพงาน ลดการใช้บุคลากร เพิ่มเทคโนโลยีเพื่อลดการสูญเสีย โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานความมั่นคง ร่วมให้ข้อมูล อาทิ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้มีการเสนอให้เร่งเพิ่มขีดความสามารถต่อต้านโดรน โดยมอบหมายกองทัพอากาศรับผิดชอบ ขณะที่กองทัพบก เน้นการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธ เนื่องจากกัมพูชามีขีปนาวุธยิงระยะไกล ส่วนกองทัพอากาศ ได้ขอให้มีการสนับสนุนโดรนเพิมเติมเพื่อป้องกันแนว ชายแดน และสนับสนุนการวิจัยอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเพื่อเพิมขีดความสามารถ และนอกจากการใช้ทหารในการแก้ไข ขอให้มีการใช้การเมือง การทูต เศรษฐกิจเพื่อแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดน
ด้าน แม่ทัพภาคที่ 2 ได้รายงานความขัดแย้งไทย-กัมพูชาในระดับรัฐบาล ทหาร และประชาชน พร้อมเสนอตั้งหน่วยข่าวกรองกลางประสานฝ่ายนโยบายและปฏิบัติการ
ภายหลังการพิจารณา กมธ.ได้มีข้อเสนอแนะให้มีการปรับปรุงพื้นที่ชายแดน เพื่อแก้ไขข้อจำกัดเรื่องถนน การเข้าถึงที่ยากลำบาก และเพิ่มเทคโนโลยีหรือกลไกช่วยปรับปรุงพื้นที่ตามแนวชายแดน พร้อมเพิ่มหน่วยข่าวกรองกลาง ประสานงานระหว่างฝ่ายการเมืองและทหารเพื่อการตัดสินใจ รวมทั้งกำหนดขอบเขตพื้นที่ชายแดน - สร้าง "โซนบัฟเฟอร์" หรือพื้นที่ "โนแมนส์แลนด์" ที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายเข้าไปสร้างบ้านเรือนในพื้นที่ที่ยังมีข้อพิพาทและมีทุ่นระเบิด
นายปิยรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า กมธ.จะร่วมหารือกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อประสานทุกหน่วยงานจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชายแดนระยะยาว โดย กมธ.จะเดินทางไปพื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ติดชายแดนไทย-กัมพูชาที่กำลังมีข้อพิพาทในวันที่ 6 กันยายน นี้ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง
