นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ว่ายืนยันอำนาจในการยุบสภาสามารถทำได้โดยรักษาการนายกรัฐมนตรี ขณะที่ทางพรรคเพื่อไทยได้มีการยื่นข้อเสนอในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยใช้แคนดิเดตที่เหลืออยู่ คือ นายชัยเกษม นิติสิริ ทั้งนี้ หากได้รับการโหวตภายหลังจากการโปรดเกล้าฯ และแถลงนโยบายแล้วเสร็จ ก็จะมีการประกาศยุบสภาในทันที ซึ่งต้องรอดูว่าข้อเสนอนี้จะมีพรรคการเมืองใดตอบรับด้วยหรือไม่ ต้องรอติดตาม ส่วนข้อเสนอนี้จะเป็นการให้พรรคประชาชนกลับมาโหวตให้กับนายชัยเกษมหรือไม่นั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นข้อเรียกร้องให้พรรคใดมาสนับสนุน เพราะมีการคุยกันแล้วว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการหาทางออกของประเทศ ณ ตอนนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจที่จะมีความบริสุทธิ์ใจอย่างยิ่งที่จะคืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน วันนี้เรายื่นข้อเสนอสุดท้ายให้กับพรรคการเมืองทุกพรรคที่อยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนข้อถามที่ว่าแนวทางนี้จะเป็นการป้องกันให้ นายอนุทินไม่มาเป็นนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่าไม่ต้องการให้คิดขนาดนั้น เพราะถือเป็นวิจารณญาณของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่ละคน ย้ำว่า เพื่อไทยยังยืนยันเสนอแคนดิเดตคนสุดท้ายของเพื่อไทย คือ นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32
นายสรวงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ขอความชัดเจนเรื่องของการยุบสภาหรือโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขอยืนยันว่าขณะนี้ยืนอยู่ในฐานะนิติบัญญัติ จึงไม่ทราบว่าฝ่ายบริหารเป็นอย่างไร ติดตรงไหน เพราะในฐานะนิติบัญญัติต้องเดินหน้าต่อ หากไม่เตรียมความพร้อม เพราะไม่ทราบว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นในสภาผู้แทนราษฎร ฝ่ายนิติบัญญัติต้องเดินทางหนึ่ง ฝ่ายบริหารต้องเดินทางหนึ่ง แต่ความชัดเจนทั้งพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลมีความประสงค์เดียวกัน คือ คืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชนอย่างชัดเจน และไม่คิดว่ากรณีนี้จะเป็นการเดินสองขาหรือขาเดียว เพราะขนาดเดินขาเดียวก็ยังไม่มีความมั่นคง ยังหาความจริงใจจากทุกคนอยู่ จึงตัดสินใจเดินหน้าพร้อมกันทั้งสองขา ส่วนสถานการณ์ในพรรคทุกคนให้กำลังใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย ในประเด็นการทูลเกล้าฯ ยุบสภานั้น ทุกคนให้กำลังใจ ย้ำว่ารักษาการแทนนายกรัฐมนตรี มีอำนาจเต็ม สามารถยุบสภาได้
นายสรวงศ์ ตอบข้อถามถึงกรอบเวลาไปถึงการยุบสภาว่า จะต้องดูให้เรียบร้อยก่อน แต่วันนี้ที่เราเสนอคือแสดงถึงความจริงใจในการที่จะคืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชนและเรามองว่าการเมือง ณ ปัจจุบันถึงจุด ๆ หนึ่งที่ไปไม่ได้แล้ว ต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน รีเซ็ทให้ประชาชนดูว่าใครเหมาะสมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อไป อย่าลืมว่ามีหลายหลายอย่างที่ต้องเตรียม ในช่วงปลายปีนี้ อาทิ การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ต้องมีคนมาบริหารจัดการ ยืนยันอีกทีว่ามีความตั้งใจอย่างเต็มที่ร้อยที่จะคืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า พรรคประชาชนบอกว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำนั้นย้อนแย้ง นายสรวงศ์ กล่าวว่า เราอยู่กันคนละมิติ ส่วนของนายภูมิธรรมเป็นส่วนของฝ่ายบริหาร ซึ่งมีขั้นตอนในการเสนอยุบสภา แต่ว่าถ้าไม่เกิดขึ้นจริง ๆ ตนต้องมีทางไปในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติก็คือการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ส่วนจะมีการเล่นเกมยื้ออำนาจในวันพรุ่งนี้กันหรือไม่ นายสรวงศ์ ระบุว่า ไม่ได้มีเกมอะไรทั้งสิ้น เมื่อมีการบรรจุวาระการเลือกนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ก็ยืนยันจะเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ ส่วนจะสายไปหรือไม่ในเงื่อนไขของการยุบสภา นายสรวงศ์บอกว่าไม่เป็นไร เพราะทุกอย่าง สามารถทบทวนได้ และมองว่าการลงนามอะไรต่างๆที่พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนได้ทำไปนั้นพรรคเพื่อไทยก็มีหน้าที่ที่ต้องทำงานเช่นกัน ซึ่งในวันที่เจรจากับพรรคประชาชนทางพรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะลงนาม แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว พรรคเพื่อไทยก็ต้องมีทางออกของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในประเด็นการทูลเกล้าฯ มีการพูดคุยกันหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มีการพูดคุยกัน เนื่องจากเป็นส่วนของฝ่ายบริหารและไม่ใช่อำนาจของตน แม้จะเป็นรักษาการรัฐมนตรีก็จริง แต่ไม่ได้มีส่วนและไม่มีอำนาจอะไรไปยุ่งเกี่ยวตรงนั้น เป็นหน้าที่ของผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี
ณรารัฏฐ์ โพธินาม / ข่าว เรียบเรียง