นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว โดยกล่าวแสดงจุดยืนไม่เห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ แม้เห็นว่างบประมาณมีความสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะเห็นได้ว่ารัฐบาลชุดที่ผ่านมาซึ่งเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายงบประมาณ ไม่ได้ทำตามที่แถลงนโยบายไว้ต่อรัฐสภา จนต้องเรียกว่า นโยบายพ่อคิด แต่ลูกไม่ทำ ยกตัวอย่างโครงการซอฟต์พาวเวอร์ ที่รัฐบาลใช้เงินจำนวนมหาศาล เป็นการใช้จ่ายที่เกินความจำเป็น เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ พร้อมชี้ถึงการที่รัฐบาลทำงานแบบไม่มีแผน เห็นได้จากโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่เคยประกาศว่าจะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ 4 รอบ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นลมพัดผ่านเบา ๆ และล้มเหลว รวมถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม
นายพิสิษฐ์ ยังกล่าวถึงผลกระทบจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ทำให้คณะรัฐมนตรีและรัฐสภาต้องเดือดร้อน เนื่องจากมีการร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในเรื่องการโยกย้ายงบประมาณปี 2568 ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตาม ในตอนท้ายของการอภิปราย นายพิสิษฐ์ได้แสดงความยินดีที่รัฐบาลชุดเก่าที่สนใจแต่คะแนนนิยมและเสถียรภาพของตัวเองถูกศาลสั่งให้พ้นตำแหน่ง พร้อมทั้งกล่าวว่า ตนไม่หวังกับรัฐบาลชุดใหม่ หวังแค่เพียงให้ประชาชนมีกินมีใช้ แต่ไม่ต้องขายศักดิ์ศรีหรือเกียรติภูมิของชาติ ถือประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ของชาติ
ณรารัฎฐ์ โพธินาม ข่าว / เรียบเรียง