คณะกรรมาธิการ(กมธ.)การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)พรรคประชาชาติ ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ พร้อมด้วยนายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม รองประธานกรรมาธิการฯ เดินทางลงพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ติดตามสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด BM-21 ของกัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมี สส.พรรคการเมืองต่างๆ ประกอบด้วย น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ นายวีรวุธ รักเที่ยง น.ส.นิตยา มีศรี และนายคุณากร มั่นนทีรัย นายเกียรติคุณ ต้นยาง สส.พรรคประชาชน นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สส.พรรคเพื่อไทย นายวิทยา แก้วภราดัย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมลงพื้นที่ด้วย
การลงพื้นที่ของคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯครั้งนื้ จุดแรกที่บ้านของ นายนารี ผาแก้ว คณะได้ลงพื้นที่บ้านนายนารี ผาแก้ว บ้านน้ำเย็น ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ ซึ่งได้รับความเสียหายจากระเบิดทั้งหลัง โดยมีนายสุริยา บุตรจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ จ่าเอกสมควร สิงห์คำ นายอำเภอกันทรลักษ์ และนายทองสวย สายแก้ว ผู้ใหญ่บ้านน้ำเย็น รายงานความคืบหน้า ระบุว่ากรมโยธาธิการและผังเมืองจะสร้างบ้านใหม่ให้ผู้ได้รับผลกระทบ วงเงิน 1.5 ล้านบาท ขณะที่นายนารีเปิดเผยว่า แม้ได้รับแจ้งว่าจะมีเงินเยียวยา 20,000 บาท แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับ ทั้งยังประสบปัญหาขาดรายได้จากร้านขายของชำที่เสียหายไปกว่า 1 เดือน จากนั้น คณะกรรมาธิการฯ ได้ลงพื้นที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. บ้านผือ ซึ่งถูกระเบิดตกใส่ร้านสะดวกซื้อจนเกิดเพลิงไหม้ มีผู้เสียชีวิต 7 คน และบาดเจ็บ 9 คน
นางกมลรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของปั๊มน้ำมันที่ได้รับผลกระทบ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เริ่มรื้อร้านเพื่อฟื้นฟูและสร้างใหม่ คาดใช้เวลา 3 เดือน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ เนื่องจากเข้าข่ายเอกชนและเป็นภัยสงคราม เบื้องต้นบริษัททิพยประกันภัยได้ช่วยเหลือ 1 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการร้านค้าในปั๊มน้ำมันที่ไม่ได้รับความเสียหายโดยตรง แต่ได้รับผลกระทบจากการต้องปิดบริการ ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการฯ เพื่อขอให้พิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือชดเชยรายได้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ จะรวบรวมข้อมูลและข้อร้องเรียนไปติดตามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
กมธ.การกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร ข้อมูล/ภาพ
