นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ซึ่งเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ได้มีมติสำคัญเห็นชอบหลักการ 3 ประเด็น 5 ข้อ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ได้แก่ 1. เงินอุดหนุนเด็กถ้วนหน้า 600 บาทต่อเดือน เริ่มปีงบประมาณ 2568 2. เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุถ้วนหน้า 1,000 บาทต่อเดือน 3. เบี้ยความพิการ 1,000 บาทต่อเดือน 4. ปรับค่าตอบแทนผู้ช่วยคนพิการจากชั่วโมงละ 50 บาท เป็นชั่วโมงละ 100 บาท และ 5. เงินอุดหนุนสตรีมีครรภ์ 3,000 บาทต่อเดือน สำหรับช่วงเดือนที่ 5–9 ของการตั้งครรภ์
นายณัฐชา กล่าวว่า มติดังกล่าวในเวลานั้นเป็นเหมือนคำมั่นสัญญาต่อสังคม ว่ารัฐบาลจะเดินหน้ายกระดับสวัสดิการพื้นฐานให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางมีชีวิตที่มั่นคงขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป นายภูมิธรรม นั่งตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นตำแหน่งสูงสุดของฝ่ายบริหารที่สามารถผลักดันนโยบายได้ทันที แต่กลับไม่มีความคืบหน้าหรือความชัดเจนใด ๆ ในการดำเนินการตามมติดังกล่าว ไม่เห็นความกล้าหรือความเร่งรีบที่จะทำตามคำพูดเดิมของตัวเอง เหมือนนโยบายที่เคยเสนอเป็นเพียงไม้ประดับทางการเมือง ไม่ใช่ภารกิจที่จริงจัง เท่ากับเป็นเครื่องยืนยันว่าที่ผ่านมาเป็นเพียงการรับปากเพื่อปัดรำคาญประชาชน พอถึงวันที่ได้อำนาจเต็มมือก็ไม่คิดจะลงมือทำ รัฐบาลรักษาการภายใต้การนำของนายภูมิธรรม จะกล้ายืนหยัดต่อหน้าประชาชนเพื่อทำให้มติ ขปส. ที่ตัวเองเคยผลักดันเป็นจริงหรือไม่ หรือจะปล่อยให้เป็นเพียงประวัติศาสตร์ที่ถูกเก็บเข้าลิ้นชัก หากไม่ทำในวันนี้ เมื่อไรจะทำ และหากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่สามารถทำให้ผลักดันนโยบายเพื่อประชาชนได้ ก็อย่าได้ประกาศสัญญาลอย ๆ ให้ประชาชนฝากความหวังอีก
นายณัฐชา กล่าวด้วยว่า ขอให้ประชาชนจดจำไว้ว่าครั้งหน้าเมื่อถึงวันเลือกตั้ง อย่าได้ฝากความหวังหรือเชื่อใจคนที่เคยผิดสัญญาเช่นนี้อีก
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
เพจเฟซบุ๊ก ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ข้อมูล / ภาพ
