17 ส.ค.68-กมธ.การต่างประเทศฯ ห่วงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ไทยต้องเร่งยกระดับเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กังวลความปลอดภัยศูนย์พักพิงชั่วคราว หลังพบโดรนสอดแนมบินรุกล้ำทางอากาศ แนะควรย้ายไปสถานที่ที่ปลอดภัยมากกว่า

image

        นายนิรัตน์  อยู่ภักดี ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมโดยมีวาระพิจารณา และติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา และศูนย์พักพิงชั่วคราว เนื่องจากศูนย์พักพิงชั่วคราว จังหวัดสุรินทร์ อยู่ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชาประมาณ 30-40 กิโลเมตร ปัจจุบันมีผู้อพยพอาศัยกว่า 1,200 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ สตรี และเด็ก ส่วนผู้ชายจำนวนมากยังคงอยู่ในพื้นที่ชายแดน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยและสัตว์เลี้ยงที่ต้องให้อาหารและน้ำ ทั้งนี้ กมธ.การต่างประเทศฯ เห็นว่าไทยควรมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีและยุทโธปกรณ์ชั้นนำเพื่อลดการพึ่งพาจากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่งมากจนเกินไป เนื่องจากปรากฏข้อมูลว่าอาวุธที่ไทยซื้อจากจีนบางส่วนถูกกัมพูชาสกัดได้ นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลที่สำคัญ คือ การสอดแนมโดยโดรนเพื่อทำการชี้เป้าหรือชี้พิกัด และระบบป้องกันภัยทางอากาศของไทยที่ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ซึ่งในพื้นที่สามารถเห็นการบินของโดรนได้โดยทั่วไป และหากโดรนมีการติดอาวุธจะเป็นอันตรายอย่างมาก ทั้งนี้ หากรัฐเห็นว่า ศูนย์พักพิงชั่วคราว ไม่ปลอดภัย ก็ควรย้ายไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัยกว่า

        นายนิรัตน์ กล่าวด้วยว่า กมธ.การต่างประเทศฯ ได้ติดตามความคืบหน้าการจัดสัมมนาเรื่อง “ภาษีทรัมป์: โจทย์ใหญ่ของเศรษฐกิจไทยหลังการเจรจา Trump Tariffs: Thailand’s Economic Crossroads Post-Negotiation” กำหนดจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 18 ส.ค.68 ณ ห้องประชุมสัมมนา B1-1 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา และติดตามความคืบหน้าการจัดสัมมนาเรื่อง “ปลดล็อกศักยภาพ SMEs ไทยสู่เวทีการค้าที่เป็นธรรม (Level the Playing Field - Fairer Trade for Thai SMEs)” กำหนดจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 22 ส.ค.68 ณ ห้องประชุมสัมมนา B1-1 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา และการพิจารณาความคืบหน้าการเดินทางไปศึกษาดูงานปัญหาการค้าชายแดนและในมิติด้านต่างประเทศ ณ จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา รวมถึงการประชุมทวิภาคี ณ รัฐปีนัง รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 4 –7 ก.ย.68

 

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา  ข้อมูล/ภาพ

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ