นายวีรภัทร คันธะ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ในรายการจับกระแส แลสภา ออกอากาศทาง Youtube : TP Radio News ถึงข้อสังเกตต่อรัฐบาล และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายหลังเกิดกระแสข่าวความผิดปกติการดำเนินงานของวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ทั้งการเปิดรับบริจาคเงิน สิ่งของ อาหาร และการบริหารจัดการของวัดฯ รวมถึงกระแสข่าวกรณีการนำเงินบริจาคไปซื้อที่ดิน เพื่อคลายความข้องใจแก่สังคมและประชาชน ว่า รัฐบาล และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรจะเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินงานของวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี อย่างรวดเร็วและรอบคอบ พร้อมมีการรายงานข้อมูลต่อสาธารณะทราบเป็นระยะ เพราะตนเห็นว่ากรณีนี้เวลาคือหัวใจ หากปล่อยให้ข่าวลือแพร่ไปไปโดยที่ไม่มีข้อมูลยืนยันจากภาครัฐ จะส่งผลกระทบต่อศรัทธาของประชาชนที่เป็นพุทธศาสนิกชนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่เป็นผู้บริจาคให้กับทางวัดพระบาทน้ำพุ ขณะเดียวกัน ตนเห็นว่าควรมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนสำหรับวัดทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย การเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อออนไลน์ และการมีคณะกรรมการตรวจสอบอย่างอิสระ
นายวีรภัทร โฆษก กมธ.การศาสนาฯ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวเพิ่มเติมถึงมุมมองต่อบทบาทของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการติดตามตรวจสอบความโปร่งใสการดำเนินงานของวัดทุกแห่งทั่วประเทศ ว่า ที่ผ่านมา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่มีการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวัดขนาดใหญ่หรือวัดที่มีชื่อเสียง ดังนั้น ตนจึงเห็นว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรเลิกไปยุ่งกับเรื่องเล็กน้อยที่อาจกระทบต่อศรัทธาของพุทธศาสนิกชน แต่ควรมุ่งไปที่การทบทวนว่าจะวางแนวทางอย่างไรให้คนรุ่นใหม่เข้าใจและเข้าถึงหลักธรรมคำสอนที่เป็นแก่นของพระพุทธศาสนามากขึ้น
นอกจากนี้ โฆษก กมธ.การศาสนาฯ สภาผู้แทนราษฎร ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาวิกฤตศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าวัดน้อยลงไปอีก ว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องวางแนวทางแก้ไขปัญหานี้ทั้งในเชิงระบบและเชิงสังคม ด้วย
คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง