นายมานพ คีรีภูวดล รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากนางสาวนิรุบล พงษ์พยอม ผู้แทนผู้ประกอบการสีขาว เพื่อขอให้มีการติดตามและตรวจสอบปัญหาจากการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 24 กันยายน 2567 และ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ว่าด้วยการต่ออายุใบอนุญาตทํางานของแรงงานข้ามชาติ
โดย นางสาวนิรุบล กล่าวว่า เงื่อนไขใหม่ที่กำหนดให้ต้องมีการอนุมัติ "บัญชีรายชื่อ" จากประเทศต้นทาง และการยื่นขอ "Calling Visa" จากกรมการจัดหางาน เป็นภาระที่เกินสมควรทั้งต่อนายจ้างและแรงงานข้ามชาติ ซึ่งไม่เคยมีเงื่อนไขดังกล่าวมาก่อน สำหรับแรงงานลาวและเวียดนาม มีระยะเวลาดำเนินการเพียง 3 เดือนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 แต่ขั้นตอนที่ซับซ้อนใช้เวลานาน ส่งผลให้บางจังหวัดใช้เวลาดำเนินการมากกว่า 2 สัปดาห์ จากตัวเลขล่าสุดคาดการณ์ว่าจะมีแรงงานลาวหลุดจากระบบ 61,166 คน และแรงงานเวียดนาม 3,415 คน รวมกว่า 64,581 คน ส่วนแรงงานกัมพูชา ต้องรออนุมัติบัญชีรายชื่อจากกระทรวงแรงงานกัมพูชา แต่การอนุมัติล่าช้า พร้อมมีรายงานการเรียกรับเงินอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พบปัญหาการทุจริตที่เกี่ยวพันกับบุคคลสำคัญและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกัมพูชา คาดว่าจะมีแรงงานมากกว่าหมื่นคนที่ดำเนินการไม่ทันภายในวันที่ 13 สิงหาคม 2568
ขณะที่แรงงานเมียนมา แม้จะมีจำนวนสูงที่สุด แต่ไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการจากรัฐบาลเมียนมา ทั้งที่เคยแจ้งว่าจะตั้งศูนย์ดำเนินการร่วมในฝั่งไทย แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า ปัญหาที่ตามมา คือ แรงงานจำนวนมาก 5 แสนคนไม่สามารถซื้อประกันสุขภาพได้ เนื่องจากสถานพยาบาลต้องการเอกสารบัญชีรายชื่อที่อนุมัติแล้วจากประเทศต้นทาง นอกจากนี้ ยังมีการเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่ และปัญหาค่าคิวในการดำเนินการต่างๆ รวมถึงการเรียกเก็บภาษีซ้อนจากรัฐบาลทหารเมียนมา จากสถานการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่มั่นใจในระบบราชการและเป็นภาระต่อทั้งนายจ้างและแรงงานข้ามชาติ รวมทั้งเสี่ยงต่อการหลุดระบบของแรงงานข้ามชาติจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติและภาคการผลิตของประเทศ ดังนั้น ทางกลุ่ม จึงขอเสนอให้มีการทบทวนมติคณะรัฐมนตรี โดยยกเลิกหรือผ่อนปรนเงื่อนไข Calling Visa และการผูกมัดบัญชีรายชื่อจากประเทศต้นทาง พร้อมตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จและพัฒนาระบบออนไลน์ให้ครบวงจร รวมทั้งตั้งคณะทำงานตรวจสอบโดยมีทุกภาคส่วนร่วมเพื่อป้องกันการทุจริต และเร่งหารือกับกระทรวงสาธารณสุขให้แรงงานเข้าถึงประกันสุขภาพชั่วคราว
ด้าน นายนพดล กล่าวว่า หากกระบวนการต่ออายุใบอนุญาตทํางานของแรงงานข้ามชาติตามมติ ครม. ซึ่งกำหนดต้องดำเนินการภายในวันที่ 13 สิงหาคม นี้ ไม่มีความโปร่งใส จะทำให้ปัญหาเรื่องของแรงงานที่ไม่ถูกกฎหมายเกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งเป็นปัญหาด้านความมั่นคงของประเทศ โดยเรื่องนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุม กมธ.เพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ปัญหาต่อไป
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง
