โดย
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ในรายการมองรัฐสภา ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา ช่อง 10 ประเด็น “พร้อมรับมือรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ – ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง 36 สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และมีมติ 7 ต่อ 2 คำสั่งให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดจากปมคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จ ฮุน เซน” และให้ส่งเอกสารชี้แจงภายใน 15 วัน ว่า จากกรณีดังกล่าวนั้น ในอดีตเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อครั้งที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยเกิดเหตุการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยรับคำร้องแล้วสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีแทนในช่วงเวลานั้น ซึ่ง สส.ในพรรคเพื่อไทย เห็นว่า กรณีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นั้น สามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้ และวันนี้ (2 ก.ค.68) จะมีการประชุมพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือถึงข้อกฎหมายและแนวทางการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
นายวิสุทธิ์ กล่าวถึงในการประชุมพรรคเพื่อไทยวันนี้จะมีการหารือถึงบุคคลที่จะถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง หรือไม่ ว่า ตนเชื่อว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยจะมีการหารือเรื่องนี้ว่าใครมีความเหมาะสม ซึ่งสุดท้ายจะต้องออกมาเป็นมติพรรค ส่วนกระแสข่าวว่ามีชื่อตนเองเป็นแคนดิเดต เพราะเคยดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง มาแล้วนั้น ยอมรับว่ามีเสียงสะท้อนถึงตนเอง แต่ก็ต้องยืนยันว่าตนเองก็ไม่สามารถเลือกได้ เพราะขึ้นอยู่กับมติของพรรค ส่วนตัวมองว่าตำแหน่งไม่สำคัญเท่ากับความตั้งใจในการทำงาน เพราะไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ๆ หากทุ่มเทอย่างสุดกำลังความสามารถและมีความซื่อสัตย์สุจริต ประชาชนก็จะเห็นคุณค่าในการทำงาน อย่างไรก็ตาม หากสัปดาห์นี้ รายชื่อที่ถูกเสนอให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ลงตัวแล้วนั้น คาดว่า สัปดาห์หน้า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็สามารถโหวตเลือกได้
ตอบข้อถามผู้ดำเนินรายการมองรัฐสภา ถึงกรณีที่ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกรัฐมนตรี ชั่วคราว นั้นจะส่งผลกระทบต่อการทำงาน หรือไม่ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ปัจจุบัน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีแทน ส่วนตัวเห็นว่ากระบวนการเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น สามารถดำเนินการได้ตามปกติ ส่วนปัญหาของฝ่ายบริหารนั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนข้อกังวลเรื่องเสียง สส.ฝ่ายรัฐบาลปริ่มน้ำนั้น ตนย้ำทุกคนเสมอว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพุธและวันพฤหัสบดี เป็นหน้าที่สำคัญของผู้แทนราษฎรทุกคน ไม่ว่าฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล รวมทั้งขอความร่วมมือให้รัฐมนตรีที่เป็น สส. เข้ามาทำงานในสภา ซึ่งจะสามารถตอบกระทู้ถามของสมาชิกได้ด้วย ตนเชื่อว่าถ้าทุกคนมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ก็จะทำให้องค์ประชุมไม่เกิดปัญหา และงานของสภาฯ ในการพิจารณากฎหมายสามารถเดินหน้าต่อไปได้
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง
