โดย
นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ รองประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ในรายการจับกระแส แลสภา ออกอากาศทางโซเชียลมีเดีย Youtube : TP Radio News ถึงประเด็นเกี่ยวกับโรคแอนแทรกซ์ ว่าโรคแอนแทรกซ์ มีช่องทางการติดเชื้อได้ 3 ช่องทาง คือ ทางอากาศ จากการสูดสปอร์ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศหรืออาจติดมากับขนสัตว์และหนังสัตว์ ซึ่งยังพบน้อย ช่องทางที่สองเป็นทางผิวหนัง ที่พบบ่อยที่สุด จากการสัมผัสกับเนื้อวัวที่ติดเชื้อ โดยเฉพาะมือที่มีแผล แผลตรงซอกเล็บ หรือเล็บขบ และช่องทางที่สาม การกินเนื้อวัว เพราะเชื้อแอนแทรกซ์สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 100 องศาเซลเซียส หากจะบริโภคเนื้อวัว ควรต้มด้วยระยะเวลา 10 นาทีขึ้นไป จึงจะรับประทานได้อย่างปลอดภัย
นายแพทย์ อลงกต กล่าวเพิ่มเติมถึงอาการของโรคแอนแทรกซ์ ว่าเริ่มแรกจะมีอาการคันบริเวณผิวที่สัมผัสเชื้อ ต่อมาจะเป็นตุ่มแดง แล้วเป็นตุ่มใส จากนั้นจะเป็นแผลที่มีลักษณะคล้ายถูกบุหรี่จี้ที่ผิวหนัง เนื่องจากจุดตรงกลางของแผลจะเป็นเนื้อตายสีดำ สุดท้ายจะเริ่มมีการติดเชื้อในกระแสเลือดและมีภาวะแทรกซ้อนตามมา ซึ่งหากสงสัยว่าอาจจะเป็นโรคแอนแทรกซ์ แล้วไปรีบไปรักษาที่โรงพยาบาลได้เร็ว และแพทย์วินิจฉัยได้เร็ว จะสามารถตอบสนองการรักษาผ่านยากลุ่มเพนิซิลลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมยืนยันว่าปัจจุบันโรงพยาบาลทุกแห่งในประเทศไทย มียาที่สามารถรักษาโรคแอนแทรกซ์ได้
รองประธาน กมธ.การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงข้อสังเกตต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันโรคให้แก่สัตว์ ว่า ควรเร่งวางแนวทางการในการฉีดวัคซีนให้แก่สัตว์ทั่วประเทศทุกปี โดยเฉพาะโคและกระบือ เพื่อสร้างความสบายใจให้กับทุกคนในสังคม นอกจากนี้ รองประธาน กมธ.การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกและตกใจว่าโรคแอนแทรกซ์จะสามารถติดกันได้ง่าย โดยแนะนำว่าควรปฏิบัติตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข คือ การกินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือ
คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง
