นายชัยมงคล ไชยรบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)พร้อมด้วย สส.พรรคพลังประชารัฐ และคณะ ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯ เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.68) ซึ่งที่ประชุมพรรคมีมติ 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกคือคัดค้านร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือโครงการ Entertainment Complex โดยเห็นว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่มีผลกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก จะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย และจะเป็นปัญหาที่ยาวนานเนื่องจากใน Entertainment Complex มีกาสิโนอยู่ด้วย นั้น หมายถึงวันนี้รัฐบาลกำลังจะทำการพนันที่จากเดิมเป็นเรื่องผิดกฎหมายให้เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายเท่ากับรัฐบาลกำลังส่งเสริมให้ประชาชนเล่นการพนันอย่างถูกต้องตามกฎหมายซึ่งถือเป็นมหันตภัยอย่างร้ายแรงต่อบ้านเมือง และหากพิจารณาเหตุการณ์ในอดีตและในประวัติศาสตร์ สมัยรัชกาลที่ 5 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นปัญหาใหญ่ เซาะกร่อนบ่อนทำลายวัฒนธรรมของไทย และทรงให้ยกเลิกบ่อนเบี้ย จึงไม่เข้าใจว่า เหตุใดรัฐบาลชุดนี้จึงมีแนวคิดเรื่องบ่อนกาสิโน หรือรัฐบาลสิ้นหนทางหาเงินมาพัฒนาประเทศจนยอมสร้างบาดแผลให้กับประเทศชาติ อีกทั้งร่าง พ.ร.บ.นี้ ยังมีการหมกเม็ด โดยเฉพาะมีการซ่อนเงื่อนเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น การให้อำนาจเลขาธิการคณะกรรมการตาม พ.ร.บ. มีอำนาจมากมาย ทั้งที่มี พ.ร.บ.การพนัน มีหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่แล้วคือ กระทรวงมหาดไทย ซึ่งคณะกรรมการที่ตั้งมาตาม พ.ร.บ.นี้จะมีอำนาจเหนือหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย และในมาตรา 11 ของ พ.ร.บ. มีการให้อำนาจคณะกรรมการกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ตลอดจนอัตราค่าธรรมเนียม ทั้งใบอนุญาตครั้งแรกและรายปี และเห็นว่าประเทศไทยมีจุดขายด้านการท่องเที่ยวอยู่ที่วัฒนธรรม อาหาร สถานที่ท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยบ่อนกาสิโนจะนำไปสู่ปัญหาการฟอกเงิน การกำหนดจำนวนใบอนุญาตที่เหมาะสม รวมถึงการกำกับควบคุม และร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ได้มีมาตรการสำหรับผลกระทบต่อสังคมเท่าที่ควร ทั้งนี้ พรรคฯ ยืนยันว่าการพนันเป็นอบายมุขที่ทำลายชาติบ้านเมือง ทำร้ายคนในชาติ และท้ายที่สุดจะทำลายเศรษฐกิจ โดยบ่อนการพนันไม่สามารถส่งเสริมให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแต่จะส่งเสริมให้นายบ่อนร่ำรวย ซึ่งพรรคฯ จะทำการคัดค้านทั้งในและนอกสภา และขอให้รัฐบาลยุติการเสนอร่าง พ.ร.บ.นี้ พร้อม ทั้งนี้เรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นี้ ด้วยการติดแฮชแท็ก "ต้านกาสิโน" ในโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม ทุกช่องทาง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและดูแลศีลธรรมอันดีของประชาชน
ส่วนอีกเรื่อง คือ ปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 ซึ่งรัฐบาลไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหา โดยรัฐบาลเคยรณรงค์หาเสียงเมื่อครั้งที่มีการเลือกตั้งว่ามีนโยบายแก้ไขปัญหามลพิษ แต่ปัจจุบันปัญหามลพิษ PM 2.5 โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ได้กระจายไปทุกพื้นที่ และเป็นปัญหาต่อสุขภาพของประชาชนในระยะยาว รวมทั้งกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่รัฐบาลไม่ได้เร่งรีบหรือสนใจในการแก้ปัญหาให้ชัดเจน และเห็นว่ามาตรการของรัฐบาลต่อปัญหาดังกล่าวนั้น ไม่ครบวงจร ไม่รัดกุม ไม่มีเครื่องมืออย่างแท้จริง และไม่มีโครงการในการช่วยเหลือประชาชน
ทั้งนี้ ทางพรรคฯ ไม่เห็นด้วยและจะดำเนินการคัดค้านทั้ง 2 เรื่อง ในทุกมิติ ทั้งในและนอกสภาฯ