5 ก.พ. 68 – ประธานวุฒิสภา ให้การรับรองประธานสภาที่ปรึกษาแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมหารือความสัมพันธ์ด้านนิติบัญญัติ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ระหว่างสองประเทศ 

image

           นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ให้การรับรองดร.อับดุลเลาะฮ์ บิน มุฮัมมัด บิน อิบรอฮีม อัลเชค (H.E. Dr. Abdullah bin Mohammed bin Ibrahim Al-Sheikh) ประธานสภาที่ปรึกษาแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐสภา ณ ห้องรับรองพิเศษ 204 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา ฝั่งวุฒิสภา โดยมี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ในฐานะผู้ติดตามเกียรติยศ ร่วมให้การรับรอง และมีสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานกรรมาธิการสามัญคณะต่าง ๆ และคณะกรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย – ซาอุดีอาระเบีย ร่วมให้การรับรอง ประกอบด้วย นายนิรัตน์ อยู่ภักดี ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา นายธวัช สุระบาล ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา นายพิศูจน์ รัตนวงศ์ ประธานกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา นายชิบ จิตนิยม ประธานกรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย – ซาอุดีอาระเบีย นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายเศรณี อนิลบล กรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพฯ และนายนพดล อินนา คณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสหภาพรัฐสภา

         นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา กล่าวว่ารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสให้การรับรองประธานสภาที่ปรึกษาแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และคณะในครั้งนี้ และขอแสดงความยินดีในโอกาสที่ผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติของซาอุดีอาระเบียและไทย ได้ร่วมลงนมบันทึกข้อตกลงร่วมกันถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น สำหรับความสัมพันธ์ด้านการทูตระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบียนั้น มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังการฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี พ.ศ. 2565 ส่วนด้านนิติบัญญัติทั้งในระดับทวิภาคี และพหุพาคี โดยฉพาะด้านทวิภาคีรัฐสภาของทั้งสองประเทศมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับประมุขอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความใกล้ชิดและมิตรภาพที่แน่นแฟ้น และยังมีความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาระหว่างกันอีกด้วย นอกจากนี้ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของไทย และซาอุดีอาระเบีย ถือว่าพัฒนาไปได้ด้วยดี ด้วยเฉพาะการท่องเที่ยว ที่มีการเพิ่มเที่ยวบินจากกรุงริยาด มายังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นับเป็นการสร้างโอกาสการท่องเที่ยวให้กับชาวซาอุดีอาระเบียและประเทศในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 2 แสนคน

        ด้านประธานสภาที่ปรึกษาแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย กล่าวขอบคุณประธานวุฒิสภา ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีในครั้งนี้ พร้อมระบุว่ายินดีที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐสภาไทย โดยการเยือนในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดการหารือ ส่งเสริม แลกเปลี่ยนระหว่างกัน นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดในทุกมิติของประเทศซาอุดีอาระเบียตามวิสัยทัศน์ 2030 ซึ่งเป็นหลักในการพัฒนาประเทศของซาอุดีอาระเบีย ที่เกิดการผลักดันให้มีเศรษฐกิจหลากหลาย นอกเหนือจากรายได้หลักของประเทศที่มาจากน้ำมัน ทั้งนี้เชื่อว่าความสัมพันธ์ที่ดีด้านนิติบัญญัติของสองประเทศจะเป็นแรงสนับสนุนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทุกมิติต่อไป นอกจากนี้ประธานสภาที่ปรึกษาฯ ยังกล่าวแสดงความยินดีต่อประธานวุฒิสภา ในโอกาสที่เข้ามารับตำแหน่งประธานวุฒิสภา และได้เรียนเชิญประธานวุฒิสภา เดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียตามโอกาสที่เหมาะสม

 

ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ