นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย กมธ.แถลงข่าวเปิดตัวโครงการเซฟสิทธิเซฟเสียง ซึ่งคณะกมธ.จัดขึ้นเพื่อเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นอาสาสมัครจับตาและสังเกตการณ์การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ โดยคณะกมธ.ได้ร่วมมือกับหลายองค์กร อาทิ สำนักนวัตกรรมของสถาบันพระปกเกล้า และองค์กรภาคประชาสังคม เช่น องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีภาคประชาชน (We Vis) และเครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย (We watch) โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือต้องการเชิญชวนประชาชน และขอรบกวนเวลาของประชาชนเพื่อมาเป็นอาสาสมัครปกป้องเสียงของประชาชนทุกคน ด้วยการจับตาการเลือกตั้ง อบจ.ตามหน่วยเลือกตั้งใกล้บ้าน ภายหลังจากการปิดหีบลงคะแนนตั้งแต่เวลา 17.00 น. ไปจนถึงเสร็จสิ้นการนับคะแนน ขอให้ช่วยกันตรวจสอบความพร้อมในภาพรวมของหน่วยเลือกตั้งว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นหรือไม่ ซึ่งคณะกมธ.ได้จัดทำเป็นรายการตรวจสอบให้กับอาสาสมัครสามารถกรอกเป็นแบบฟอร์มได้เลย ตลอดจนการถ่ายภาพผลการนับคะแนนของผู้สมัครนายกอบจ. และ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ณ หน่วยเลือกตั้ง ทั้งนี้หากประชาชนคนใดสนใจร่วมเป็นอาสาสมัคร สามารถแสดงความประสงค์ได้ผ่าน 2 ขั้นตอน คือกรอกข้อมูลในลิงค์ที่ กมธ. ได้ประกาศประชาสัมพันธ์ไว้ หรือ สแกนคิวอาร์โค้ด (QR code) ที่อยู่ในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ที่คณะกมธ. ได้เผยแพร่ เมื่อลงทะเบียนเสร็จแล้ว จะนำอาสาสมัครเข้ากลุ่มแอปพลิเคชันไลน์ และแจกแบบฟอร์ม พร้อมกับคู่มือที่สามารถนำไปใช้ได้ในการทำภารกิจ ณ วันเลือกตั้ง อบจ.
นายพริษฐ์ กล่าวต่อไปถึงภาพรวมการทำงานของคณะกมธ. เกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นด้วยว่าโครงการเซฟสิทธิเซฟเสียง เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของการทำงานของคณะกมธ. เพื่อติดตามตรวจสอบและเสนอแนะแนวทางการเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกมธ. มองว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นการเลือกตั้งที่มีความสำคัญมากกับคุณภาพชีวิตประชาชนเพราะว่าบริการสาธารณะส่วนใหญ่ อยู่ภายใต้การดำเนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาคณะกมธ.ได้ทำงานเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นโดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ประกอบด้วย ช่วงก่อนวันเลือกตั้ง ได้มีความพยายามกระตุ้นให้ประชาชนมีความสะดวกมากที่สุดในการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากไม่สามารถโน้มน้าวให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปลี่ยนวันเลือกตั้งจากวันเสาร์ สมัครเป็นวันอาทิตย์ได้สำเร็จ ซึ่งคณะกมธ.ได้ประสานไปยังทุกภาคส่วนขอให้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้มากที่สุดเพื่อออกมาใช้สิทธิใช้เสียงของตนเอง โดยเฉพาะขอให้ กกต.ขอความร่วมมือไปยังบริษัทห้างร้านต่าง ๆ อาจพิจารณาให้ปฏิบัติงานครึ่งวัน หรือหยุดงานเต็มวันได้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในการเลือกตั้งครั้งถัดไป กกต. จะกำหนดวันเลือกตั้งให้ตรงกับวันอาทิตย์ ส่วนช่วงของการเลือกตั้งได้ดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความโปร่งใสของการนับคะแนน ผ่านการดำเนินโครงการเซฟสิทธิเซฟเสียงและสุดท้ายช่วงหลังการเลือกตั้งได้จัดทำข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่นเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง