นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการนำผลงานทางวิชาการและผลงานการวิจัยไปใช้ประโยชน์ในกระบวนการนิติบัญญัติ ระหว่างสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา กับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมีนางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา และ ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ลงนามในฐานะหัวหน้าส่วนราชการ และนายพีระพจน์ รัตนมาลี รองเลขาธิการวุฒิสภา และ รศ.นพ.สุนทร วงษ์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ลงนามเป็นพยาน โดยภายในงานมี นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง ในฐานะประธานกรรมการวิจัยและพัฒนาของวุฒิสภา นายบุญสงค์ ทองอินทร์ ผู้อำนวยการสำนักวิชาการ ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เข้าร่วมในพิธี ณ ห้องประชุม 402 – 403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ด้วยรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ได้กำหนดให้ วุฒิสภา เป็นองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่พิจารณากลั่นกรองกฎหมายจากสภาผู้แทนราษฎร การตรวจสอบถ่วงดุลและการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน รวมทั้งการให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ โดยมีหลักพื้นฐานให้วุฒิสภามีความเป็นกลาง รอบคอบ ดังนั้น วุฒิสภา ต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง ทันเหตุการณ์ และนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้เพื่อรับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ดังนั้น ผลงานวิจัยจากสถาบันการศึกษาจึงมีความสำคัญต่อการนำองค์ความรู้ไปใช้สนับสนุนการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ระหว่างสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา กับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของวุฒิสภาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการนำข้อมูลจากงานวิจัยไปใช้ประกอบการตัดสินใจของสมาชิกวุฒิสภาให้อยู่บนพื้นฐานทางวิชาการ อันจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันการศึกษาที่มีผลงานวิจัยครอบคลุมทุกเรื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ในจังหวัดภาคใต้ที่มีความสำคัญต่อการกำหนดนโยบายต่าง ๆ ตนขอขอบคุณ อธิการบดี และคณาจารย์ทุกท่าน ที่ช่วยสนับสนุนงานวิจัย และตนขอให้การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ครั้งนี้ นำไปสู่การทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง